
เจ้าหน้าที่อาวุโสทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (5 ต.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะเริ่มปลดพนักงานรัฐบาลกลางจำนวนมาก หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นว่าการเจรจากับพรรคเดโมแครตในสภาเพื่อหาทางยุติภาวะชัตดาวน์นั้นไปต่อไม่ได้
ขณะที่ภาวะชัตดาวน์ล่วงเข้าสู่วันที่ห้า เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ในรายการ “State of the Union” ของ CNN ว่า เขายังมองว่ามีโอกาสที่พรรคเดโมแครตจะยอมอ่อนข้อ ซึ่งจะช่วยให้ไม่ต้องปิดหน่วยงานจนเกิดความเสียหาย และเลี่ยงการปลดพนักงานรัฐบาลกลางตามที่รัสเซลล์ โวต ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเคยพูดไว้
ต่อมาในวันเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวถามทรัมป์ว่าจะเริ่มปลดพนักงานรัฐบาลกลางเมื่อใด ทรัมป์ตอบสั้น ๆ โดยไม่ขยายความว่า “กำลังทำอยู่”
นับตั้งแต่ทรัมป์พบกับผู้นำสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการเจรจากันอีก โดยภาวะชัตดาวน์เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของปีงบประมาณ 2569 หลังจากวุฒิสมาชิกเดโมแครตคว่ำร่างงบประมาณระยะสั้นที่จะช่วยให้หน่วยงานรัฐเปิดทำการต่อไปได้จนถึงวันที่ 21 พ.ย.
“พวกเขาไม่ยอมคุยกับเรา” ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา กล่าวในรายการ “Face the Nation” ของ CBS และย้ำว่าทางตันนี้จะคลี่คลายได้ก็ต่อเมื่อทรัมป์และผู้นำสภาคองเกรสทั้งสี่ฝ่ายกลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง
ฝ่ายเดโมแครตเรียกร้องให้ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือค่าเบี้ยประกันภายใต้กฎหมาย Affordable Care Act (โอบามาแคร์) อย่างถาวร และต้องการคำมั่นสัญญาว่าทำเนียบขาวจะไม่ยกเลิกงบประมาณที่ตกลงกันไว้ตามอำเภอใจ
จอห์น ธูน ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจกำหนดวาระการประชุมสภา กล่าวว่าตนพร้อมพิจารณาข้อกังวลของเดโมแครต แต่พวกเขาต้องยอมกลับมาเปิดหน่วยงานรัฐบาลเสียก่อน
ทรัมป์เองก็สนใจในประเด็นประกันสุขภาพเช่นกัน โดยย้ำจุดยืนของรีพับลิกันที่ต้องการปฏิรูปกฎหมายโอบามาแคร์ “เราอยากแก้ให้มันดีขึ้น โอบามาแคร์คือหายนะของประชาชน เราจึงต้องแก้ไขมันให้ได้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าใกล้จะได้ข้อสรุปแล้วหรือยัง วุฒิสมาชิกเดโมแครต รูเบน ไกเอโก ตอบ CNN ว่า “ณ ตอนนี้ ยังครับ”
ในวันนี้ (6 ต.ค.) วุฒิสภาเตรียมลงมติเป็นครั้งที่ 5 ในร่างงบประมาณชั่วคราวที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว รวมถึงร่างของฝั่งเดโมแครต แต่คาดว่าทั้งสองร่างจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนครบ 60 เสียงตามเกณฑ์
ด้วยเสียงข้างมาก 53 ต่อ 47 ที่นั่ง และมีรีพับลิกันหนึ่งคนคัดค้านร่างกฎหมายนี้ ทำให้พรรครีพับลิกันต้องการเสียงจากเดโมแครตอย่างน้อย 8 เสียง แต่จนถึงตอนนี้มีเพียง 3 คนที่โหวตสวนมติพรรค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 68)