ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับการตรวจร่างกายที่ศูนย์การแพทย์วอลเตอร์รีดในวันศุกร์นี้ (10 ต.ค.) หลังมีคนจำนวนมากตั้งคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของเขา อันเนื่องมาจากรอยฟกช้ำและอาการบวมที่เห็นได้ชัดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเขาได้เข้ารับตรวจสุขภาพประจำปีครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.
แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า “ในเช้าวันศุกร์นี้ ท่านปธน.ทรัมป์จะไปที่ศูนย์การแพทย์วอลเตอร์รีดเพื่อประชุมตามแผนที่วางไว้และกล่าวสุนทรพจน์ร่วมกับกองทหาร โดยในขณะที่อยู่ที่นั่น ท่านปธน.จะแวะไปตรวจสุขภาพด้วย ซึ่งถือเป็นการตรวจสุขภาพประจำปี” และเสริมว่า “ท่านปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาเดินทางไปตะวันออกกลางในอีกไม่นานหลังจากนั้น”
ในช่วงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดกระแสข่าวลือบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับอาการป่วยของทรัมป์ อันเนื่องมาจากการที่เขาไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นเวลานาน รวมทั้งภาพที่แสดงให้เห็นถึงรอยช้ำที่มือของเขา อย่างไรก็ดี ทรัมป์ได้ปฏิเสธกระแสข่าวบนโซเชียลมีเดียที่ว่าเขามีปัญหาสุขภาพ
กระแสข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพของทรัมป์ มีหลังจากผู้ใช้งาน X ได้เผยแพร่คำพูดของรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ที่ตอบคำถามสื่อเมื่อวันที่ 28 ส.ค. โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามแวนซ์ว่าเขาพร้อมที่จะรับหน้าที่ผู้นำประเทศหรือไม่ แวนซ์กล่าวว่าเขามั่นใจว่าทรัมป์ “มีสุขภาพที่ดี” แต่ก็กล่าวเป็นนัยว่าเขาพร้อมที่จะก้าวเข้ามาทำหน้าที่หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับประธานาธิบดี
การไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะของทรัมป์ในช่วงเวลานั้นทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของเขา เนื่องจากมีรอยช้ำบนมือของเขาและอาการบวมที่ขาท่อนล่าง โดยภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่าข้อเท้าของเขาบวมและมีเครื่องสำอางปกปิดบางส่วนของมือ
อย่างไรก็ดี ฌอน บาร์บาเบลลา แพทย์ประจำตัวของทรัมป์ระบุในจดหมายที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาวว่า ผลการตรวจร่างกายยืนยันว่าอาการบวมที่ขาของปธน.ทรัมป์เกิดจาก “ภาวะหลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง” ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่อันตรายและพบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุเกิน 70 ปี
ส่วนรอยช้ำที่มือของทรัมป์นั้น แพทย์ระบุว่าเกิดจากอาการระคายเคืองของเนื้อเยื่ออ่อนเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากการจับมือบ่อยครั้งและจากการใช้ยาแอสไพริน ซึ่งปธน.ทรัมป์ใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ต.ค. 68)
