นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด กล่าวว่า การก้าวสู่ปีที่ 6 LINE BK ตั้งเป้าพัฒนาเป็น Everyday Financial Partner อย่างเต็มรูปแบบ เชื่อม ชีวิตการเงินและโซเชียล ให้ใกล้กันยิ่งขึ้น ไม่เพียงจัดการเรื่องเงินส่วนตัว แต่ยังเปิดโอกาสให้เพื่อนและครอบครัว แชร์ แนะนำ และส่งต่อสิ่งดีๆได้ง่ายใน LINE แอปเดียว
บริษัทมุ่งต่อยอดจุดแข็งของ LINE ecosystem โดยเฉพาะการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์สำคัญอย่าง LINE MAN Wongnai ควบคู่ไปกับการใช้ความเข้าใจลูกค้ารายย่อยอันลึกซึ้งของธนาคารกสิกรไทย ขับเคลื่อนด้วยพลังเทคโนโลยี AI และการใช้ข้อมูลอย่างรับผิดชอบ เพื่อสร้างบริการการเงินดิจิทัลที่คล่องตัว ช่วยให้การจัดการการเงิน ผสานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง และวางรากฐานสู่ยุคใหม่ของการเงินดิจิทัลในประเทศไทย
“เราต้องการให้ LINE BK เป็นมากกว่าบริการการเงิน คือเป็น เพื่อนคู่คิดด้านการเงิน ที่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันมากขึ้น และคนไทยวางใจได้ทุกวัน ช่วยให้ทุกคนจัดการการเงินได้อย่างมั่นคง เติบโต และแบ่งปันสิ่งดีๆให้คนรอบตัวได้ต่อเนื่อง และการเดินหน้าของ LINE BK ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาก็สามารถมีกำไรได้แล้วในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา” นายธนา กล่าว
ด้านคุณภาพพอร์ตสินเชื่อของ LINE BK มีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ไม่เกิน 4% ซึ่งยังเป็นระดับที่ต่ำกว่า NPL ของธุรกิจในกลุ่มนาโนไฟแนนซ์ โดยที่ในช่วงที่ผ่านมา LINE BK มีการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ปล่อยให้ลูกค้าต่อเนื่อง รวมทั้งมีการช่วยเหลือลูกค้าในการปรับโครงสร้าง และปรึกษาให้คำแนะนำในการบริหารจัดการหนี้ของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ายังสามารถมีความสามารถในการชำระคืนหนี้ได้
นายธนา กล่าวว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา LINE BK ได้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเงินให้คนไทย ด้วยประสบการณ์ “เรื่องเงินง่ายใน LINE คุณ” ไม่ว่าจะเปิดบัญชีเงินฝาก โอน สแกนจ่ายด้วย QR ขอสินเชื่อ หรือซื้อประกัน ทั้งหมดทำได้ใน LINE แอปเดียว ปัจจุบันเรามีลูกค้าไว้วางใจใช้งานกว่า 8 ล้านคน และจะเดินหน้าพัฒนาต่อไป เพื่อเป็นพาร์ตเนอร์ด้านการเงินที่อยู่ในทุกๆ วันของคนไทยอย่างแท้จริง และอยู่เคียงข้างคนไทยในทุกวิกฤต
โดยตั้งแต่ LINE BK เปิดให้บริการวันแรกอยู่ในช่วงที่ประเทศไทยเผชิญทั้งวิกฤตโควิด-19 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเมือง และค่าครองชีพ LINE BK ยืนหยัดเคียงคู่คนไทย ด้วยนโยบายและความช่วยเหลือที่ต้องการให้ลูกค้าผ่านพ้นวิกฤต และพลิกฟื้นกลับมาได้อย่างมั่นคง อาทิ ให้ส่วนลดค่างวดและการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ความไม่สงบทางชายแดนไทย-กัมพูชา รวมไปถึงเข้าร่วมมาตรการของภาครัฐ เช่น มาตรการคุณสู้ เราช่วย, ปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) รวมถึงการให้ความรู้ทางการเงิน ให้ลูกค้ากู้เท่าที่จำเป็นต้องใช้ จากแหล่งถูกกฎหมาย ไม่ก่อหนี้เกินตัว เพื่อโอกาสฟื้นตัวทางการเงิน และปรับเพิ่มวงเงินสำหรับลูกค้าที่มีประวัติชำระดี ช่วยต่อยอดโอกาสเข้าถึงเงินทุนและแบ่งเบาภาระในชีวิตประจำวัน
ตลอด 5 ปี LINE BK เดินหน้าพัฒนาบริการเพื่อให้เรื่องเงิน ง่าย เข้าถึงได้ และครบวงจร บน 3 มิติหลัก ได้แก่ 1. Seamless in LINE – ทุกเรื่องการเงินในที่เดียว ทำธุรกรรมได้ครบทั้งเปิดบัญชีเงินฝาก โอน สแกนจ่ายด้วย QR ขอสินเชื่อ และซื้อประกัน ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน LINE แอปเดียว ไม่ต้องเดินทางไปสาขาหรือสลับหลายแอป
2. Inclusive Finance – เปิดกว้างทุกกลุ่มอาชีพ ให้ทุกคนเข้าถึงบริการการเงินได้ง่าย โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อถูกกฎหมาย ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะพนักงานเงินเดือน แต่ครอบคลุมถึงกลุ่มอาชีพอิสระและผู้มีรายได้น้อย ช่วยลดข้อจำกัด และขยายโอกาสทางการเงินให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ
3. Comprehensive Solutions – ครบวงจรทุกความต้องการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ครอบคลุมธุรกรรมประจำวัน (Banking) การเสริมสภาพคล่องด้วยวงเงินสินเชื่อ (Lending) และการดูแลชีวิตและสุขภาพผ่านแบบประกันที่หลากหลาย (Insurance) เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินทั้งระยะสั้นและยาว
การเติบโตของ LINE BK ซึ่งธุรกรรมทางการเงินครบ จบใน LINE สะดวก ปลอดภัย และพร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์ สมัครบัตรเดบิต โอนเงินหรือเรียกเก็บเงินผ่านแชท และสินเชื่อเพื่อทุกกลุ่มรายได้ ด้วยบริการวงเงินให้ยืมและวงเงินให้ยืมนาโน เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบอาชีพอิสระ จุดเด่นคือไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน และอนุมัติไวสุดภายใน 1 นาที สำหรับลูกค้า KBank ที่มีประวัติเดินบัญชีเงินฝากต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน
ปัจจุบันมีลูกค้าสินเชื่อกว่า 855,000 ราย มีพอร์ตสอนเชื่อรวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท โดยเกือบครึ่งของลูกค้าอาชีพอิสระที่สมัครสินเชื่อกับ LINE BK มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักเผชิญข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อดั้งเดิม ทั้งนี้ยังเตรียมเปิดตัวโปรแกรม “เพื่อนชวนเพื่อน” แนะนำสินเชื่อผ่านประสบการณ์ผู้ใช้จริง โดยผู้แนะนำจะได้รับเครดิตเงินคืนตามเงื่อนไข มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบอย่างมีความรับผิดชอบ ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ นอกจากนี้ LINE BK ยังร่วมมือกับ LINE MAN Wongnai เพื่อเปิดโอกาสให้ร้านค้าบนแพลตฟอร์มเข้าถึงเงินทุนได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีประกันคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และออมครบวงจร LINE BK Insurance Broker เติบโตต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมความต้องการยิ่งขึ้น เช่น “ประกันมีหนี้ไม่มีห่วง” เป็นประกันชีวิตทางเลือกสำหรับผู้มีหนี้ มุ่งลดภาระให้กับครอบครัวกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน ด้านภาพรวมลูกค้าหลักเป็นกลุ่ม Gen Y ประมาณ 85% เน้นเลือกแผนคุ้มครองสูงสุด (XL) และส่วนใหญ่กลับมาซื้อซ้ำเพื่อเพิ่มความครอบคลุม โดยผลิตภัณฑ์ที่ขายดี ได้แก่ ประกันผู้ป่วยนอก (OPD) ประกันชดเชย ไม่ใช้มีคืน (HB) และประกันโรคร้ายแรงเจอจ่าย (CI)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ต.ค. 68)
