
ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีคนใหม่และนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น เปิดเผยในการแถลงข่าววานนี้ (21 ต.ค.) ว่า รัฐบาลของเธอจะเร่งจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น พร้อมปฏิเสธแนวคิดที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด โดยระบุว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยของเธอจะให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก
แหล่งข่าวเผยว่า ทาคาอิจิ วัย 64 ปี ได้สั่งการรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ให้เร่งรวบรวมชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เธอให้คำมั่นว่า จะยกเลิกอัตราภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงชั่วคราวโดยเร็ว และขยายเกณฑ์รายได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีจากปัจจุบันที่ 1.03 ล้านเยน (ประมาณ 6,800 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยจะ “รับฟังความเห็นจากพรรคฝ่ายค้าน”
ทาคาอิจิกล่าวว่า มาตรการทางเศรษฐกิจเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้สุทธิของประชาชนและลดภาระของครัวเรือน พร้อมเสริมว่า เธอจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาผลกระทบเชิงลบจากมาตรการภาษีที่สูงขึ้นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สำหรับด้านการต่างประเทศ ทาคาอิจิระบุว่า เธอตั้งตารอที่จะพบปะกับเหล่าผู้นำจากประเทศอื่น ๆ ในการประชุมสุดยอดผู้นำชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่ประเทศมาเลเซียในสุดสัปดาห์นี้ และการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่จะเปิดฉากขึ้นที่เกาหลีใต้ในปลายเดือนนี้
ทั้งนี้ ทาคาอิจิได้แสดงความหวังว่าจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจกันอย่างลึกซึ้งกับทรัมป์ ผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ในการกล่าวถึงกำหนดการเยือนญี่ปุ่นของทรัมป์ที่คาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ทาคาอิจิ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากมุมมองที่แข็งกร้าวในประเด็นการทูตและกลาโหม ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะเริ่มดำเนินการทบทวนเอกสารด้านความมั่นคงที่สำคัญของประเทศ รวมถึงยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นแนวทางนโยบายระยะยาวด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 68)