รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งเสริมกำลังทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาคแคริบเบียนเมื่อวันศุกร์ (24 ต.ค.) ด้วยการประกาศส่งกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินเจอรัลด์ ฟอร์ด (Gerald Ford) ไปยังลาตินอเมริกา โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพที่มากกว่าปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติดในช่วงที่ผ่านมา และเป็นการแสดงอำนาจที่แข็งกร้าวที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้จนถึงปัจจุบัน
การส่งกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินจะทำให้กำลังทางทหารของสหรัฐฯ ในพื้นที่เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่แล้วได้แก่ เรือรบ 8 ลำ, เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ และเครื่องบิน F-35 ถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่กับเวเนซุเอลา ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหามานานว่าหนุนหลังผู้ค้ายาเสพติดและบ่อนทำลายสถาบันประชาธิปไตย
ชอน พาร์เนล โฆษกของเพนตากอนระบุผ่าน X ว่า การเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ความรับผิดชอบของ หน่วยบัญชาการทางทหารสหรัฐฯ ภาคใต้ (USSOUTHCOM) ซึ่งครอบคลุมลาตินอเมริกาและแคริบเบียน จะช่วยเพิ่มความสามารถของสหรัฐฯ ในการตรวจจับ ติดตามและสกัดกั้นกิจกรรมผิดกฎหมายที่คุกคามความปลอดภัยและความเจริญของประเทศ รวมถึงความมั่นคงในซีกโลกตะวันตก
ทั้งนี้ เพนตากอนไม่ได้ระบุเวลาแน่ชัดที่เรือบรรทุกเครื่องบินจะเข้าถึงภูมิภาคดังกล่าว แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เรือบรรทุกเครื่องบินอยู่ระหว่างเดินทางผ่านช่องแคบยิบรอลตาร์ และอยู่ในยุโรป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 68)
