
บริษัทสายการบินสัญชาติไอริช ไรอันแอร์ (Ryanair) ได้ประกาศผลกำไรหลังหักภาษีสำหรับรอบผลประกอบการ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2568 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย พร้อมกันนี้ได้ปรับเพิ่มประมาณการจำนวนผู้โดยสารสำหรับปีงบการเงินปัจจุบัน (2569) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง (Boeing) ที่เร็วกว่ากำหนด และอุปสงค์การเดินทางที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก
ไรอันแอร์รายงานผลกำไรสุทธิ 2.54 พันล้านยูโร (2.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับครึ่งปีแรก ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นช่วงที่บริษัททำกำไรได้สูงสุด อันเนื่องมาจากเป็นช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญของซีกโลกเหนือ
ตัวเลขกำไรดังกล่าวเพิ่มขึ้น 42% จากระดับ 1.8 พันล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.5 พันล้านยูโร
ไรอันแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้โดยสาร ระบุว่า บริษัทคาดว่า ค่าโดยสารเฉลี่ยจะสามารถฟื้นตัวจากระดับที่ลดลง 7% ในปีก่อนหน้าได้ทั้งหมดภายในปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค. 2569 และคาดว่าจะส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับทั้งปีมีการเติบโตในระดับที่ “สมเหตุสมผล”
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรก ค่าโดยสารเฉลี่ยขยายตัว 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ไรอันแอร์คาดการณ์ว่าจะสามารถให้บริการผู้โดยสารได้ถึง 207 ล้านคนในปีงบการเงินสิ้นสุดเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 206 ล้านคน อันเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้รับมอบเครื่องบินรุ่น MAX 8 ใหม่จำนวน 23 ลำจากโบอิ้งในช่วงครึ่งปีแรก
ไมเคิล โอเลียรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวในแถลงการณ์ว่า “แม้ว่ายอดการจองตั๋วล่วงหน้าในไตรมาสที่ 3 จะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดกลางภาคเรียนเดือนต.ค. และช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่เราตระหนักดีว่าในช่วงครึ่งปีหลัง เราจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการเปรียบเทียบกับฐานค่าโดยสารที่สูงของปีก่อนหน้า ซึ่งจะส่งผลให้การผลักดันการเติบโตของค่าโดยสารทำได้ยากยิ่งขึ้น”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 68)





