คริส โบเวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (4 พ.ย.) ว่า รัฐบาลเตรียมเสนอแผนให้ครัวเรือนหลายล้านหลังทั่วประเทศสามารถใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ฟรีเป็นเวลา 3 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ไฟฟ้าในช่วงที่การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์อยู่ในระดับสูงสุด และเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศ โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2569
โครงการดังกล่าวมีชื่อว่า “โซลาร์ แชเรอร์” (Solar Sharer) ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ครัวเรือนทุกรูปแบบสามารถเข้าร่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้เช่า แม้จะไม่ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของตนเองก็ตาม โดยจะเริ่มนำร่องในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐเซาท์ออสเตรเลีย และพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่นทั่วประเทศในลำดับต่อไป
โบเวนระบุว่า “ประชาชนที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ไฟฟ้ามาอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับประโยชน์โดยตรง ไม่ว่าจะมีแผงโซลาร์เซลล์หรือไม่ ยิ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้ามากเท่าใด ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าโดยรวม และท้ายที่สุดจะนำไปสู่การลดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ทุกคน”
ทั้งนี้ เงื่อนไขสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการคือต้องติดตั้งมิเตอร์อัจฉริยะ (Smart Meter) และจะได้รับประโยชน์สูงสุดเมื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สิ้นเปลืองพลังงานสูงมาไว้ในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้เต็มศักยภาพ
ปัจจุบัน ออสเตรเลียมีครัวเรือนราว 4 ล้านหลังที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา ส่งผลให้ในช่วงกลางวันที่มีแดดจัด ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้มีจำนวนมหาศาลจนบางครั้งทำให้ราคาซื้อขายไฟฟ้าในตลาดปรับตัวลงสู่ระดับติดลบ อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดกลับเกิดขึ้นในช่วงเย็น ซึ่งสร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อโครงข่ายไฟฟ้า โครงการนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
ภายหลังการประกาศข่าวดังกล่าว ราคาหุ้นของบริษัท AGL และ Origin Energy ซึ่งเป็นผู้จัดหาไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดสองแห่งของออสเตรเลีย ได้ปรับตัวลดลง 3% ในการซื้อขายช่วงบ่าย
อนึ่ง โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้มีสัดส่วนถึง 82% ภายในปี 2573 ควบคู่ไปกับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 43% จากระดับในปี 2548 ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 68)
