ญี่ปุ่นเตรียมยกเครื่องกฎหมายลงทุนต่างชาติ มุ่งเสริมประสิทธิภาพตรวจสอบความมั่นคง

รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการค้าต่างประเทศ (Foreign Exchange and Foreign Trade Act – FEFTA) ในปีหน้า เพื่อทำให้กระบวนการตรวจสอบการลงทุนจากต่างประเทศมีความรวดเร็วขึ้น และสามารถประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ

การแก้ไขดังกล่าวจะเป็นการปรับปรุงกฎหมาย FEFTA ครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 ที่รัฐบาลได้ลดเกณฑ์การตรวจสอบการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในกิจการที่ถูกกำหนดว่าเป็นกิจการสำคัญ จากเดิม 10% เหลือเพียง 1% การปรับเกณฑ์ดังกล่าวทำให้จำนวนการยื่นขอตรวจสอบเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 2,000 รายต่อปีนับตั้งแต่ปี 2563 เทียบกับเพียงราว 500 รายก่อนหน้านั้น จนนำไปสู่เสียงเรียกร้องให้ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ โดยกฎหมายฉบับแก้ไขที่มีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบในปี 2563 ได้กำหนดให้มีการทบทวนภายใน 5 ปีหลังบังคับใช้

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้เสนอเอกสารต่อคณะกรรมการตรวจสอบการลงทุนจากต่างประเทศ โดยแนะให้จำกัดขอบเขตของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องผ่านการตรวจสอบล่วงหน้าเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางไซเบอร์ เนื่องจากธุรกิจกลุ่มนี้รวมถึงบริการซอฟต์แวร์ คิดเป็นกว่าครึ่งของการตรวจสอบทั้งหมดในปัจจุบัน

นอกจากนี้ กระทรวงยังระบุถึงช่องโหว่ในกรอบกฎหมายที่ต้องได้รับการแก้ไข เช่น กรณีของนักลงทุนภายในประเทศที่ไม่อยู่ภายใต้การตรวจสอบ แต่มีการดำเนินงานภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมของผู้มีความเสี่ยงสูงจากต่างประเทศ เช่น รัฐบาลต่างชาติ รวมถึงกรณีที่นักลงทุนต่างชาติได้ถือหุ้นในบริษัทญี่ปุ่นโดยทางอ้อม ผ่านการเข้าซื้อกิจการของบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นดังกล่าวอยู่ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย FEFTA แม้ว่าการซื้อหุ้นโดยตรงครั้งแรกจะผ่านการตรวจสอบแล้วก็ตาม

เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแล รัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการลักษณะเดียวกับ “คณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศของสหรัฐฯ” (Committee on Foreign Investment in the United States – CFIUS) เพื่อรวบรวมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มายกระดับการประสานงานด้านการตรวจสอบการลงทุนจากต่างประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 68)