ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรของจีน (GAC) ระบุว่า ยอดส่งออกแร่หายากของจีนในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9% จากเดือนก.ย. แตะระดับ 4,343.5 เมตริกตัน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังจากที่ยอดส่งออกลดลงต่อเนื่องตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการพบปะระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. โดยทั้งสองฝ่ายตกลงให้จีนยังคงส่งออกแร่หายากต่อไป และต่อมารัฐบาลปักกิ่งได้ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกฉบับวันที่ 9 ต.ค. เป็นเวลา 1 ปี
อย่างไรก็ตาม มาตรการควบคุมที่ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนเม.ย. ซึ่งเคยส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป
ก่อนหน้านี้ จีนได้ประกาศขยายขอบเขตการควบคุมการส่งออกแร่หายากเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 9 ต.ค. โดยครอบคลุมแร่ธาตุใหม่อีก 5 ชนิด และเทคโนโลยีการสกัดแร่อีกหลายสิบรูปแบบ เพื่อจำกัดการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแร่สำคัญเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดของ GAC ยังเป็นเพียงยอดรวม จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าผลิตภัณฑ์ประเภทใดหรือประเทศใดเป็นผู้นำเข้าหลัก โดยข้อมูลแบบจำแนกรายละเอียดจะเผยแพร่เพิ่มเติมในวันที่ 20 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ จีนส่งออกแร่หายากรวม 52,699.2 ตัน เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 68)
