ปลื้ม!! คนละครึ่งพลัสผ่าน Food Delivery วันแรกราบรื่น เดินหน้าเฟส 2 จ่อเข้าครม. ธ.ค.นี้

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงคลัง กล่าวว่า วันนี้ (7 พ.ย.) เป็นวันแรกที่เปิดให้ใช้จ่ายผ่าน Food Delivery โดยข้อมูล ณ เวลา 09.00 น. พบว่า มีร้านค้าที่เข้าร่วม Food Delivery ทั้งสิ้นกว่า 7 หมื่นร้านค้า แบ่งเป็น Line Man 3.85 หมื่นร้านค้า, GrabFood 2.76 หมื่นร้านค้า, Robinhood 1.22 พันร้านค้า และ ShopeeFood 3.3 พันร้านค้า

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์ม Food Delivery เป็นไปได้ด้วยดีไร้ปัญหา เนื่องจากกระทรวงการคลังได้มีการออกแบบระบบอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการทุจริตซึ่งเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเชื่อมต่อระบบกับแพลตฟอร์ม เพราะต้องการทำให้กระบวนการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใส จึงทำให้การเปิดใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์ม Food Delivery ช้ากว่าการใช้สิทธิทั่วไปประมาณ 7 วัน

“เป็นครั้งแรกที่แพลตฟอร์มเข้ามาร่วมด้วย ส่วนหนึ่งเพราะต้องการเห็นการต่อยอดที่เรียกว่าการ UpSkill ของร้านค้า โดยเฉพาะร้านธรรมดาที่ไม่เคยขายออนไลน์ก็อยากให้เข้ามาขายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการยกระดับอย่างชัดเจน และที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือกับแพลตฟอร์มซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีในการสร้างแรงจูงใจให้ร้านค้าเข้ามาร่วม เช่นการลดค่า GP ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำคัญของร้านค้าที่อยู่ในแพลตฟอร์ม ส่วนในเฟส 2 นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้แรงจูงใจกับร้านค้าเพื่อเข้ามาขายผ่านแพลตฟอร์มอะไรบ้าง” ปลัดคลัง ระบุ

ส่วนยอดใช้จ่ายรวม ณ เวลา 09.00 น. วันที่ 7 พ.ย.พบว่า มีทั้งสิ้น 2.05 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ประชาชนร่วมจ่าย 1.04 หมื่นล้านบาท และรัฐบาลร่วมจ่าย 1.01 หมื่นล้านบาท โดยมีจำนวนผู้ใช้จ่ายสำเร็จ 19.01 ล้านราย และมีจำนวนร้านค้าที่มีการใช้จ่ายสำเร็จ ทั้งสิ้น 7.91 แสนร้านค้า จากร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ และผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้วทั้งหมด 8.69 แสนร้านค้า

*เตรียมเสนอเฟส 2 เข้าครม.ในธ.ค.นี้

นายลวรณ ระบุว่า รัฐบาลต้องการรักษาบรรยากาศและแนวโน้มการใช้จ่ายที่คึกคักให้ต่อเนื่องไป ดังนั้นก็จะต้องเร่งสรุปรายละเอียดเพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือน ธ.ค. 68 หากยืนยันว่าจะมีการดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัส ระยะที่ 2 ภายในเดือน ม.ค. 69 โดยระหว่างนี้รัฐบาลต้องไปเร่งพิจารณาจัดสรรงบประมาณในส่วนของงบกลางเพื่อมาใช้รองรับการดำเนินการ ซึ่งต้องรอความชัดเจนว่าจะบริหารจัดการงบได้เท่าไหร่แล้วจึงค่อยมาพิจารณาว่าในระยะที่ 2 นั้นจะให้สิทธิกับประชาชนจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งรายละเอียดในระยะที่ 2 ยังอยู่ระหว่างการออกแบบ โดยเฉพาะวงเงินสิทธิที่จะให้กับประชาชนที่จะต้องยุติธรรมสำหรับผู้ได้รับสิทธิในระยะแรก และระยะที่ 2

“คนที่ได้รับสิทธิในเฟสแรก แต่ไม่ได้ใช้จ่ายภายในวันที่ 11 พ.ย. นี้ เบื้องต้นจะถูกตัดสิทธิทันที ไม่มีเปิดให้ลงทะเบียนรอบเก็บตก แต่สามารถไปลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิในเฟส 2 ได้ ส่วนสิทธิในเฟสแรกเหลือเท่าไหร่จะคิดเป็นวงเงินและดึงไปใช้ในเฟสที่ 2 ต่อ ขณะที่วงเงินของผู้ที่ได้สิทธิในเฟส 2 นั้น จะต้องยุติธรรม สมมุติว่า ผู้ได้รับสิทธิเฟสแรก ได้วงเงิน 2 พันบาทไปแล้ว และคนที่ไม่ได้สิทธิเฟสแรก แต่มาลงทะเบียนในเฟสที่ 2 และรัฐให้วงเงิน 4 พันบาท ดังนั้นคนที่ได้สิทธิในเฟสแรก และมาลงทะเบียนเฟสที่ 2 อีกรอบก็ควรจะได้สิทธิในเฟส 2 แค่ 2 พันบาท แต่เมื่อรวมปลายทางแล้วทุกคนในโครงการคนละครึ่ง พลัส จะได้รับสิทธิเท่ากัน คือ 4 พันบาทเป็นต้น ตรงนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการคิดออกแบบกันอยู่ ทุกอย่างยังไม่จบ แต่ยืนยันว่าได้มีการพิจารณาในประเด็นนี้แน่นอน” นายลวรณ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 68)