
เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนพิริยะ [TNP] เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/68 มีรายได้จากการขาย 731.10 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 47.66 ล้านบาท สำหรับงวด 9 เดือนแรก มีรายได้จากการขาย 2,196.49 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 148.53 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.31% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายอดขายสาขาเดิมลดลงจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว
โดยปีนี้ได้เปิดสาขาใหม่ 6 สาขา ได้แก่ สาขาดอยหลวง สาขาแม่จัน(2) สาขาหนองบัวแดง จังหวัดเชียงราย สาขาเจดีย์แม่ครัว และสาขาสันทรายน้อย จ.เชียงใหม่ ปิดท้าย ปี 68 สาขาแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จากปัจจุบันในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 มีสาขาทั้งหมด 53 สาขา และคาดว่าจะครบ 56 สาขา ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้
ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/68 คาดว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุน คือ เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่มีหลายเทศกาล ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้น และได้รับอานิสงส์จากนโยบายของรัฐบาลในกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่ง TNP ได้รับประโยชน์จากประชาชนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับผลบวกโดยตรงจากโครงการเพิ่มวงเงินสวัสดิการพิเศษสำหรับเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ปี 2568 ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับเงินเพิ่มอีก 850 บาทต่อคนต่อเดือน รวมสิทธิเพิ่มเป็น 1,150 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบกับโดยปกติช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมถึงฤดูกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือ นอกจากนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล ทำให้เชื่อมั่นว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
“คาดว่ารายได้จากการขายปีนี้จะเติบโตจากปีก่อนได้ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าปีนี้จะมีหลายปัจจัยท้าทาย แต่การขยายสาขายังคงเป็นกลยุทธ์หลักในการเติบโต โดยเน้นเลือกทำเลที่เข้าถึงแหล่งชุมชน กระจายอยู่ใน 3 จังหวัดภาคเหนือ คือ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และ จ.พะเยา รวมทั้งได้บริหารจัดการนำสินค้าในกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงและการแข่งขันไม่รุนแรงเข้ามาจำหน่ายเพื่อรักษาอัตรากำไรและตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น TNP ยังได้รับผลดีจากมาตรการของรัฐบาลที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยให้คึกคัก โดยได้รับประโยชน์ทางตรงจากโครงการเพิ่มวงเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคนละ 1,150 บาท ซึ่ง TNP รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือโครงการที่ได้รับผลบวกทางอ้อม อาทิ “เที่ยวดี มีคืน” และ “คนละครึ่งพลัส” แถมเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวภาคเหนือ ปัจจัยเหล่านี้คาดว่าส่งผลบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 4/68″ เภสัชกรหญิงอมร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 68)




