
มาซาอากิ คานาอิ ผู้อำนวยการสำนักกิจการเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เดินทางไปยังจีนในวันจันทร์ (17 พ.ย.) เพื่อบรรเทาความขัดแย้งทางการทูตที่ทวีความร้อนระอุขึ้น ซึ่งมีชนวนเหตุจากถ้อยแถลงล่าสุดของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ผู้นำญี่ปุ่นเกี่ยวกับแนวทางการตอบสนองที่เป็นไปได้ของญี่ปุ่นต่อสถานการณ์ฉุกเฉินในไต้หวัน
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวเกียวโดว่า ในการประชุมที่คาดว่าจะจัดขึ้นในวันอังคาร (18 พ.ย.) คานาอิจะเน้นย้ำว่า ทาคาอิจิไม่ได้เปลี่ยนแปลงจุดยืนของญี่ปุ่นตามที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ร่วมปี 2515 ซึ่งยอมรับสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมเพียงหนึ่งเดียวของจีน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) ว่า กระทรวงได้เรียกตัวเคนจิ คานาสุกิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกรุงปักกิ่งเข้าพบ เพื่อเรียกร้องให้นายกฯ ทาคาอิจิถอนคำพูด ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นก็ได้กล่าวในวันเดียวกันว่า ได้ยื่นประท้วงในลักษณะเดียวกันต่อโพสต์บนโซเชียลมีเดียของนักการทูตจีนรายหนึ่งเกี่ยวกับถ้อยแถลงดังกล่าว
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทาคาอิจิกล่าวว่า หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในไต้หวันซึ่งมีการใช้กำลังทหาร อาจถือเป็น “สถานการณ์ที่คุกคามการอยู่รอด” ของญี่ปุ่น
วาทะดังกล่าวของทาคาอิจิบ่งชี้ว่า ญี่ปุ่นอาจใช้สิทธิในการป้องกันตนเองร่วมกัน (Collective Self-Defense) ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพที่ห้ามการใช้กำลังทหาร ซึ่งได้สร้างความขุ่นเคืองแก่รัฐบาลจีน เนื่องจากจีนถือว่าเกาะไต้หวันซึ่งปกครองตนเองนั้นเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และรัฐบาลจีนยึดมั่นมาตลอดว่า ปัญหาไต้หวันถือเป็น “กิจการภายใน” ของจีนโดยแท้
ในการตอบโต้ถ้อยแถลงดังกล่าว เสวีย เจี้ยน กงสุลใหญ่จีน ณ นครโอซากะ ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า จะ “ตัดคอสกปรกทิ้งโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว” ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกลบออกไป ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการข่มขู่ต่อทาคาอิจิจากคำกล่าวของเธอ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลจีนยังได้ออกประกาศเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ที่เตรียมจะมาศึกษาต่อในญี่ปุ่นให้ทบทวนแผนการดังกล่าวอย่างรอบคอบ โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 68)





