คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เห็นชอบร่างข้อมติที่เสนอโดยสหรัฐฯ เพื่อให้การรับรองแผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการยุติสงครามในกาซา พร้อมทั้งอนุมัติการจัดตั้งกองกำลังรักษาเสถียรภาพระหว่างประเทศ (ISF) ในดินแดนดังกล่าวของปาเลสไตน์
UNSC ได้ลงมติรับรองร่างดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 พ.ย.) หลังจากที่เมื่อเดือนก่อน อิสราเอลและกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ได้บรรลุข้อตกลงในขั้นตอนแรกของแผนการ 20 ประการของทรัมป์ อันประกอบด้วยการหยุดยิงในสงครามที่ยืดเยื้อมานานสองปีและข้อตกลงปล่อยตัวประกัน อย่างไรก็ดี ข้อมติของ UN ฉบับนี้ถูกมองว่ามีความสำคัญในการให้ความชอบธรรมแก่คณะผู้บริหารในช่วงเปลี่ยนผ่าน และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาติต่าง ๆ ที่กำลังพิจารณาส่งกองกำลังเข้าร่วมภารกิจในกาซา โดยรัสเซีย ซึ่งสามารถใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต้ ในฐานะสมาชิกถาวรของ UNSC ได้เคยส่งสัญญาณคัดค้านข้อมตินี้ แต่ท้ายที่สุดได้เลือกที่จะงดออกเสียง ทำให้ข้อมติสามารถผ่านการรับรองไปได้
เนื้อหาในข้อมติระบุว่า รัฐสมาชิกสามารถเข้าร่วมในคณะกรรมการสันติภาพ (Board of Peace) ซึ่งมีทรัมป์เป็นประธาน และถูกวางบทบาทให้เป็นองค์กรบริหารในช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะกำกับดูแลการฟื้นฟูบูรณะและการเยียวยาทางเศรษฐกิจของกาซา นอกจากนี้ ข้อมติดังกล่าวยังให้อำนาจในการจัดตั้ง ISF ซึ่งจะเข้ามารับประกันกระบวนการปลดอาวุธในฉนวนกาซา รวมถึงการรวบรวมอาวุธและทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร
องค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ได้ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อข้อมติดังกล่าว และยืนยันความพร้อมที่จะเข้าร่วมในการนำข้อมติไปปฏิบัติ แหล่งข่าวนักการทูตระบุว่า การที่องค์การบริหารฯ แสดงท่าทีสนับสนุนข้อมตินี้เมื่อสัปดาห์ก่อน ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยยับยั้งไม่ให้รัสเซียใช้สิทธิวีโต้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการรับรองข้อมติ โดยย้ำจุดยืนของกลุ่มว่าจะไม่วางอาวุธ พร้อมทั้งให้เหตุผลว่าการต่อสู้กับอิสราเอลเป็นการต่อต้านอันชอบธรรม ซึ่งท่าทีดังกล่าวอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มฮามาสกับกองกำลังนานาชาติที่จัดตั้งขึ้นตามข้อมตินี้
ขณะเดียวกัน ข้อมติดังกล่าวได้จุดประกายความขัดแย้งขึ้นในอิสราเอล เนื่องจากมีการอ้างถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต เมื่อองค์การบริหารฯ ดำเนินโครงการปฏิรูปจนลุล่วง และการพัฒนาฟื้นฟูในกาซามีความคืบหน้า
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากสมาชิกรัฐบาลฝ่ายขวาจัด ได้กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (16 พ.ย.) ว่า อิสราเอลยังคงยืนกรานคัดค้านการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ และให้คำมั่นว่าจะดำเนินการปลดอาวุธในกาซาให้สำเร็จ “ไม่ว่าจะด้วยวิธีที่ง่ายหรือวิธีที่ยากก็ตาม”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 68)
