ทางการอินโดนีเซียเร่งอพยพประชาชนกว่า 900 คน และกำลังพยายามนำตัวนักปีนเขาจำนวน 170 คนที่ติดค้างอยู่กลับลงมาในวันนี้ (20 พ.ย.) หลังภูเขาไฟเซอเมรู (Semeru) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่สูงที่สุดของประเทศเกิดการปะทุขึ้น
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ทางการยังคงระดับการเตือนภัยไว้ที่ระดับสูงสุด หลังจากภูเขาไฟเซอเมรูบนเกาะชวาเกิดการปะทุถึง 10 ครั้งเมื่อวันพุธ (19 พ.ย.) โดยพ่นเถ้าถ่านมหาศาล ขณะที่ลาวาและหินไหลลงมาตามลาดเขาเป็นระยะทางไกลถึง 13 กิโลเมตร
เซปตี วาร์ดานี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเซอเมรู ระบุว่า กลุ่มนักปีนเขาต้องค้างแรมอยู่บริเวณพื้นที่กางเต็นท์ริมทะเลสาบตรงตีนเขา ซึ่งห่างจากปากปล่องภูเขาไฟประมาณ 6.4 กิโลเมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าช่วยเหลือเพื่อนำตัวไปยังพื้นที่ปลอดภัย
“นักปีนเขาทุกคนพร้อมด้วยไกด์นำทางปลอดภัยดี และสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว” วาร์ดานีกล่าว
ปราฮิสตา ดียัน เจ้าหน้าที่หน่วยงานกู้ภัยจังหวัดชวาตะวันออก เปิดเผยว่า หน่วยงานได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือในภารกิจอพยพ โดยขณะนี้ประชาชน 956 คนที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟถูกย้ายไปพักพิงที่โรงเรียน มัสยิด และสถานที่ราชการแล้ว พร้อมกับเสริมว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกค้นหาเพื่อตรวจสอบว่ายังมีชาวบ้านติดค้างอยู่ในพื้นที่หรือไม่
ภาพเหตุการณ์จากสำนักงานภูเขาไฟวิทยาของอินโดนีเซียเผยให้เห็นกลุ่มเถ้าถ่านร้อนขนาดใหญ่พวยพุ่งออกจากปากปล่องและปกคลุมไปทั่วบริเวณลาดเขา โดยเหตุการณ์ปะทุครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนธ.ค. 2564 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 ราย และหมู่บ้านใกล้เคียงถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่าน
ทั้งนี้ ภูเขาไฟเซอเมรูมีความสูง 3,676 เมตร เป็นหนึ่งในภูเขาไฟมีพลังราว 130 ลูกในอินโดนีเซีย ซึ่งตั้งอยู่บนแนว “วงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก” (Pacific Ring of Fire) อันเป็นเขตที่มีความเคลื่อนไหวของเปลือกโลกสูง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 68)
