ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเปิดกว้างสำหรับการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อลดผลกระทบข้างเคียงที่เกิดจากการอ่อนของเงินเยน ซึ่งท่าทีดังกล่าวของรัฐบาลสะท้อนให้เห็นว่านายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิจิ มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
ทาคูจิ ไอดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเครดิต อะกริกอล ในฐานะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกฯ ญี่ปุ่น กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค (NHK) เมื่อวานนี้ว่า เขาเชื่อว่ารัฐบาลของทาคาอิจิจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราแบบเชิงรุกมากขึ้น และเสริมว่าญี่ปุ่นมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากเกินพอ เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นไม่ได้เลวร้าย
การแสดงความเห็นล่าสุดของไอดะสะท้อนคำเตือนของเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเข้าแทรกแซงค่าเงินอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ โดยเขามองว่า ทางการญี่ปุ่นอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดก่อนที่เงินเยนจะอ่อนค่าลงไปถึงระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นเส้นแดง เมื่อพิจารณาจากปี 2567 ที่ทางการญี่ปุ่นเข้าซื้อเงินเยนหลายครั้งหลังจากเยนอ่อนค่าลงทะลุระดับดังกล่าว
ไอดะยังกล่าวกับเอ็นเอชเคด้วยว่า การลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ (AI) การป้องกันประเทศ และภาคส่วนอื่น ๆ มีความสำคัญ แม้ว่าญี่ปุ่นจะต้องออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนก็ตาม โดยเขากล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ของทาคาอิจิจะพยายามสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงกับการรักษาระดับเงินเฟ้อ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 พ.ย.) ซัตสึกิ คาตายามะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น เตือนว่า เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อไม่นานมานี้ และรัฐบาลเชื่อว่าการเข้าแทรกแซงค่าเงินถือเป็นทางเลือกหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าตลาดยังคงมีเสถียรภาพ โดยรัฐบาลจะ “ดำเนินการอย่างเหมาะสมตามความจำเป็น” อันเป็นผลมาจากการที่เงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบประมาณ 10 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกกังวลว่านายกรัฐมนตรีทาคาอิจิจะเพิ่มการออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุลภายใต้นโยบายส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้สถานะการคลังของญี่ปุ่นจะย่ำแย่ที่สุดในบรรดาประเทศในกลุ่ม G7 ก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 68)
