มาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 พ.ย.) ว่า เขาจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดีซี ในสัปดาห์หน้า เพื่อเข้าร่วมพิธีจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งสหรัฐอเมริกาจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับแคนาดาและเม็กซิโกในปีหน้า พร้อมเผยว่า เขาจะได้พบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในงานนี้
คาร์นีย์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาได้สนทนาสั้น ๆ กับทรัมป์เมื่อวันอังคาร แต่การเจรจาข้อตกลงการค้าที่สำคัญยังไม่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ที่ทรัมป์ยุติการเจรจาเมื่อเดือนต.ค. หลังจากรัฐออนแทรีโอของแคนาดาได้นำคลิปวิดีโอของอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ที่กล่าวว่า ภาษีศุลกากรทำให้เกิดสงครามการค้าและความเสียหายทางเศรษฐกิจ มาประกอบการเผยแพร่โฆษณา
คาร์นีย์กล่าวว่า กระบวนการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ ที่เคยใกล้ชิดกันมากว่าหลายทศวรรษได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยในปีที่ผ่านมา การส่งออกของแคนาดากว่า 75% เป็นการส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะไม้ อะลูมิเนียม และเหล็กที่แคนาดาส่งออกไปยังตลาดเดียวมากถึง 90%
คาร์นีย์เน้นย้ำว่า แคนาดาต้องปกป้องแรงงานและอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ มากที่สุด โดยทรัมป์ได้สั่งเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 50% ส่วนภาษีไม้เนื้ออ่อน (Softwood) ปัจจุบันอยู่ที่ 45% หลังเริ่มปรับขึ้นภาษีเมื่อเดือนต.ค.
ทั้งนี้ คาร์นีย์ได้ประกาศมาตรการสนับสนุนชุดใหม่สำหรับอุตสาหกรรมเหล็กและไม้เนื้ออ่อนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ซึ่งมาตรการดังกล่าวรวมถึงการจำกัดโควตาการนำเข้าเหล็กจากประเทศที่ไม่มีข้อตกลงการค้าเสรีกับแคนาดาลงจาก 50% เหลือ 20% ของระดับในปี 2567
นอกจากนี้ รัฐบาลกลางแคนาดายังเสนอการค้ำประกันเงินกู้เพิ่มอีก 500 ล้านดอลลาร์แคนาดา (356 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แก่อุตสาหกรรมซอฟต์วูด นอกเหนือจากมาตรการอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนให้ผู้สร้างบ้านใช้วัสดุที่ผลิตในแคนาดา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 68)
