เซลส์ฟอร์ส (Salesforce) เปิดเผยข้อมูลในวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ระบุว่า ยอดขายทางออนไลน์ในวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แตะที่ระดับ 8.6 พันล้านดอลลาร์ บ่งชี้ว่าบรรดานักชอปกำลังใช้ประโยชน์จากส่วนลดจำนวนมากจากบริษัทค้าปลีกเพื่อที่จะจับจ่ายใช้สอยอย่างเต็มที่ ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมหภาคเผชิญกับความไม่แน่นอน อันเนื่องมาจากมาตรการภาษีศุลกากร
ข้อมูลของเซลส์ฟอร์สระบุว่า ณ เวลา 14.00 น. ในวันพฤหัสบดีตามเวลาฝั่งตะวันออก (02.00 น.ในวันศุกร์ที่ 28 พ.ย.ตามเวลาไทย) ยอดการใช้จ่ายในวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แตะที่ระดับ 2.6 พันล้านดอลลาร์
วันขอบคุณพระเจ้าซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย. และวันถัดมาคือวันแบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลชอปปิงวันหยุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ปกติแล้วจะสามารถสร้างยอดขายและผลกำไรให้ร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ ได้ถึง 1 ใน 3 ของทั้งปี
ฤดูกาลชอปปิงในปีนี้เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความผันผวนที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า ซึ่งได้เพิ่มต้นทุนให้กับร้านค้าปลีกและผู้บริโภค
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการล่าสุดของบริษัทค้าปลีกในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า บรรดานักชอปเต็มใจที่จะซื้อของขวัญ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า และอื่น ๆ เมื่อมีข้อเสนอส่วนลดที่ดี แม้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมจะอ่อนแอก็ตาม
นอกจากนี้ ข้อมูลของเซลส์ฟอร์สยังแสดงให้เห็นว่า ยอดใช้จ่ายทั่วโลกในวันขอบคุณพระเจ้าแตะที่ระดับ 1.31 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว และคาดว่ายอดขายทางออนไลน์ทั่วโลกจะสูงถึง 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นสุดวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย.
ขณะเดียวกันคาดว่า ยอดขายทางออนไลน์ทั่วโลกในวันแบล็กฟรายเดย์ ซึ่งเป็นวันชอปปิงออนไลน์ครั้งใหญ่ที่สุดแห่งปี จะอยู่ที่ 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเป็นยอดขายในสหรัฐฯ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 68)
