รมว.ความมั่นคงฯ เผย มือยิง National Guard เพิ่งซึมซับแนวคิดสุดโต่งตอนอยู่ในสหรัฐฯ

คริสตี โนเอม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ เปิดเผยในวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) ว่า ทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า ราห์มานุลเลาะห์ ลาคานวาล ผู้อพยพชาวอัฟกานิสถานซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดียิงเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชาติสหรัฐฯ (National Guard) เสียชีวิตในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไม่ได้มีพฤติกรรมหัวรุนแรงมาก่อนหน้านี้ แต่เพิ่งจะมาซึมซับแนวคิดสุดโต่งหลังจากเดินทางเข้ามาพำนักในสหรัฐฯ แล้ว

โนเอมให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์หลายช่องว่า จากการสืบสวนพบว่า ลาคานวาลเริ่มฝักใฝ่ความรุนแรงขณะอาศัยอยู่ในรัฐวอชิงตัน โดยเชื่อว่าเกิดจากการติดต่อสัมพันธ์กับบุคคลในชุมชนที่เขาอาศัยอยู่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งขยายผลสอบสวนไปยังคนใกล้ชิดและสมาชิกครอบครัว พร้อมทั้งประกาศคาดโทษว่า หากใครมีส่วนรู้เห็นหรือให้ข้อมูล จะต้องถูกติดตามตัวมาดำเนินคดีจนถึงที่สุด

สำหรับลาคานวาล วัย 29 ปี ผู้ก่อเหตุ เคยสังกัดหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจาก CIA ในอัฟกานิสถาน และเดินทางเข้าสหรัฐฯ เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน อพยพคนออกจากพื้นที่หลังกลุ่มตาลีบันยึดอำนาจ ทว่าเอกสารของรัฐบาลกลับระบุว่า เขาเพิ่งได้รับสถานะผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นี่เอง

เหตุการณ์ลอบยิงดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (26 พ.ย.) ใกล้กับทำเนียบขาว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชาติเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย โดยหลังเกิดเหตุ รัฐบาลทรัมป์พยายามกล่าวโทษกระบวนการคัดกรองคนเข้าเมืองในสมัยอดีตปธน.ไบเดนว่าหละหลวม

ล่าสุด ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบิน Air Force One ว่า รัฐบาลอาจพิจารณาระงับการรับผู้ลี้ภัยเข้าประเทศอย่างไม่มีกำหนด โดยระบุว่า “อาจจะระงับไปอีกนาน ลำพังเราก็มีปัญหามากพอแล้ว เราไม่ต้องการคนพวกนี้”

นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ยังเริ่มมาตรการกวาดล้างการเข้าเมือง โดยสั่งระงับการพิจารณาคำขอลี้ภัยทั้งหมด ซึ่งโนเอมย้ำว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเตรียมจะรื้อตรวจสอบผู้ที่มีคำร้องขอลี้ภัยค้างอยู่ทุกราย และพร้อมจะผลักดันออกนอกประเทศทันทีหากพบเหตุอันสมควร

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 68)