ออสเตรเลียประกาศเดินหน้าแผนขยายการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั่วประเทศในวันนี้ (2 ธ.ค.) โดยยืนยันว่าจะยังคงอาศัยกฎหมายที่มีอยู่เป็นฐานในการจัดการความเสี่ยงใหม่ ๆ แทนการออกกฎระเบียบเฉพาะด้านที่เข้มงวดสำหรับกรณีความเสี่ยงสูง ซึ่งถือเป็นการปรับทิศทางจากแนวคิดก่อนหน้านี้ของรัฐบาล
แม้ประเทศยังไม่มีกฎหมายที่ออกมาเพื่อกำกับดูแลด้าน AI โดยเฉพาะ แต่รัฐบาลกลางภายใต้พรรคแรงงานได้ส่งสัญญาณตั้งแต่ปีที่ผ่านมาว่า อาจใช้แนวปฏิบัติแบบสมัครใจเพื่อช่วยกำกับดูแล ท่ามกลางความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้นตามการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าว
ในแผนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติที่เผยแพร่ในวันนี้ รัฐบาลระบุว่าเป้าหมายหลักคือการดึงดูดเงินลงทุนด้านศูนย์ข้อมูลขั้นสูง การพัฒนาทักษะแรงงานด้าน AI เพื่อรองรับและปกป้องตลาดงาน และการสร้างกลไกเพื่อความปลอดภัยสาธารณะในยุคที่ AI มีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของประชาชน
แผนดังกล่าวเน้นย้ำว่ากรอบกฎหมายและกฎระเบียบที่ออสเตรเลียมีอยู่แล้วจะยังคงเป็นแกนกลางของการกำกับดูแล โดยให้ใช้กฎหมายที่มีอยู่เพื่อรับมือและลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน AI ในแต่ละภาคส่วน ขณะที่หน่วยงานรัฐและหน่วยงานกำกับดูแลจะยังต้องทำหน้าที่ติดตามและจัดการอันตรายที่อาจเกิดขึ้นตามลักษณะของอุตสาหกรรมของตน
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังรัฐบาลระบุเมื่อเดือนก่อนว่าจะจัดตั้งสถาบันความปลอดภัยด้าน AI ภายในปี 2569 เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ติดตามความเสี่ยงใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI และตอบสนองต่อภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ในระดับสากล หน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศเริ่มเพิ่มความกังวลต่อข้อมูลผิดพลาดที่เกิดจากเครื่องมือ AI แบบรู้สร้าง (Generative AI) เช่น แชตจีพีที (ChatGPT) ของโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งไมโครซอฟท์ (Microsoft) สนับสนุน และเจมิไน (Gemini) ของกูเกิล (Google) ที่มีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้นทั่วโลก
ทิม เอเยอร์ส รัฐมนตรีอุตสาหกรรมของออสเตรเลียระบุว่า แผนยุทธศาสตร์ฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี AI อย่างเต็มที่ โดยยังคงรักษาสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมและการบริหารจัดการความเสี่ยงซึ่งอาจเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 68)
