บริษัทสาขาสหรัฐฯ ในเครือบริษัทญี่ปุ่นอย่างน้อย 9 แห่ง รวมถึง โตโยต้า ทูโช (Toyota Tsusho) และซูมิโตโม เคมีคอล (Sumitomo Chemical) ยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อขอคืนภาษีศุลกากรเพิ่มเติมที่ได้จ่ายไปแล้วในปีนี้ หากศาลสูงสุดมีคำพิพากษาว่าภาษีดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ตามเอกสารศาลล่าสุด บริษัทกลุ่มนี้ระบุว่า การเก็บภาษีตอบโต้ของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โดยอ้างอำนาจตามกฎหมาย International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คำร้องดังกล่าวถูกยื่นต่อศาลการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ ที่นิวยอร์ก หลังจากที่ศาลฎีกาเปิดฉากการไต่สวนด้วยวาจาเมื่อวันที่ 5 พ.ย. โดยระหว่างการไต่สวน ผู้พิพากษา ทั้งสายอนุรักษนิยมและสายเสรีนิยม ต่างแสดงความสงสัยต่อความชอบด้วยกฎหมายของภาษีศุลกากรที่ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
บริษัทร่วมทุนเหล่านี้จึงตัดสินใจดำเนินคดี เพราะเชื่อว่าการคืนเงินให้ผู้นำเข้าอาจไม่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ แม้ศาลสูงสุดจะตัดสินให้ภาษีทรัมป์เป็นโมฆะก็ตาม โดยบริษัทญี่ปุ่นรายอื่น ๆ ที่ร่วมฟ้องด้วยนั้น ได้แก่ ริโก้ (Ricoh), โยโกฮามา รับเบอร์ (Yokohama Rubber) และอุชิโอะ (Ushio)
ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นเคยตัดสินว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตตามกฎหมาย IEEPA ในการกำหนดภาษีตอบโต้และภาษีใหม่กับสินค้านำเข้าจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก โดยอ้างว่าภาษีดังกล่าวเป็นการลงโทษที่ทั้งสามประเทศไม่พยายามควบคุมการลักลอบนำเข้าสารฟีนทานิลเข้าสหรัฐฯ
ทั้งนี้ แม้ยังไม่ชัดเจนว่าศาลสูงสุดจะมีคำตัดสินในเรื่องนี้เมื่อใด แต่หลายสิบบริษัท รวมถึงร้านค้าส่งสินค้าในสหรัฐฯ อย่างคอสต์โก โฮลเซล (Costco Wholesale) ก็ยื่นฟ้องรัฐบาลเพื่อโต้แย้งความชอบด้วยกฎหมายของมาตรการภาษี และเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับเงินคืน หากศาลตัดสินให้มาตรการดังกล่าวเป็นโมฆะ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 68)
