
นายปิยะ เตชากูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอทีพี 30 [ATP30] เปิดเผยแผนการดำเนินงานเชิงรุกด้าน Green Mobility ตั้งเป้าหมายขยายกองรถบัสพลังงานไฟฟ้า (EV) และระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างเต็มกำลังในปี 69 โดยจะเพิ่มจำนวนรถบัส EV อีกกว่า 30 คัน ด้วยงบลงทุนราว 200 ล้านบาท แบ่งใช้ซื้อรถบัสไฟฟ้า 150 ล้านบาท และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงขยายสถานีชาร์จอีก 50 ล้านบาท การลงทุนครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้รายได้รวมของบริษัทฯ ในปีหน้าเติบโตได้ตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 15%
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นพัฒนาระบบพลังงานหมุนเวียน ด้วยการลงทุนในสถานีชาร์จที่มีระบบ Solar Roof & Smart Charger เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสำหรับใช้เองจากเดิม 120 กิโลวัตต์ เป็น 240–300 กิโลวัตต์ ซึ่งจะช่วยบริหารจัดการต้นทุนพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในระยะยาว ปัจจุบันมีสถานีชาร์จ 2 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มอีก 3 สถานี ในปี 69 ครอบคลุมพื้นที่มาบตาพุด สระบุรี และปทุมธานี เพื่อรองรับการใช้งานของกองรถ EV ของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทกำลังเตรียมขยายธุรกิจบริการเสริมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักภายใต้ชื่อ AQS (A Quick Service) ซึ่งเป็นการให้บริการซ่อมบำรุงรถและจำหน่ายอะไหล่แก่ลูกค้าภายนอก โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและทีมช่างที่มีอยู่แล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นปี 2569
ขณะที่แผนระยะกลาง (ปี 69-71) ATP30 ได้เข้าร่วมโครงการ Jump+ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยวางแผนการเติบโต 3 ปี ด้วยการเพิ่มจำนวนรถ EV ในกองยานยนต์อีก 100-150 คัน คาดใช้งบลงทุนรวมกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรถ EV ในภาพรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัทกำลังก้าวสู่การเป็น Green-Industry Support Partner อย่างเต็มตัว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศที่ปรับตัวเข้าสู่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Decarbonization) โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 (Scope 3) ที่ลูกค้าต้องการพันธมิตรที่ช่วยบริหารจัดการอย่างครบวงจร ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มให้บริการด้านการลดคาร์บอนแก่โรงงานที่สนใจแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุยกับผู้ประกอบการโรงงานรายใหญ่จำนวน 5 ราย
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ T-Ver เพื่อประเมินว่าการเปลี่ยนมาใช้รถ EV จะสามารถแปลงเป็น คาร์บอนเครดิตได้เท่าไหร่และขั้นตอนมีความคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งหากสำเร็จจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถเสนอโซลูชันลด Scope 3 ให้แก่โรงงานของลูกค้าได้อย่างครบวงจร
สำหรับทิศทางธุรกิจในไตรมาส 4/68 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องสอดคล้องกับทั้ง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ เดินหน้าตามกลยุทธ์ Green Mobility โดยทยอยเพิ่มจำนวนรถบัส EV อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีรถบัส EV ให้บริการแล้ว 29 คัน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในพื้นที่ EEC และนิคมอุตสาหกรรมภาคกลาง ทำให้คาดว่ารายได้รวมในปีนี้มีโอกาสสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 800 ล้านบาท และสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ในเกณฑ์ดี
“บริษัทเดินหน้านำเทคโนโลยีมาใช้ในระบบบริหารจัดการเดินรถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุมต้นทุน และรักษากำไรได้อย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ฐานะการเงินแข็งแกร่งและกระแสเงินสดเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ATP30 วางแผนเตรียมความพร้อมด้าน Green Business มาโดยตลอด ส่งผลให้มีความชัดเจนในฐานะผู้นำด้านบริการรถรับส่งพนักงานพลังงานสะอาดที่ครบวงจร สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้ารายเดิม และลูกค้ารายใหม่ที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น จากแผนการดำเนินงานดังกล่าวมั่นใจว่า ATP30 จะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้” นายปิยะ กล่าว


โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 68)





