อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว พุ่งขึ้นแตะระดับ 2.020% ในวันนี้ (19 ธ.ค.) ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2542 หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี ที่ 0.75%
นอกจากปัจจัยด้านนโยบายการเงินแล้ว ตลาดพันธบัตรญี่ปุ่นยังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเรื่องสถานะการคลังของประเทศ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิจิ ซึ่งมีแนวคิดสนับสนุนการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจดำเนินแผนการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมหาศาล
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเผชิญแรงเทขายอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ทาคาอิจิเข้ารับตำแหน่งผู้นำเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีความกังวลว่าวินัยทางการคลังของญี่ปุ่นจะย่ำแย่ลงอีก โดยปัจจุบันญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะสูงกว่าขนาดเศรษฐกิจ ถึงสองเท่าอยู่แล้ว และแย่ที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีเบื้องต้นสำหรับปีงบประมาณซึ่งจะเริ่มในเดือนเม.ย. ปีหน้า สูงเป็นประวัติการณ์กว่า 120 ล้านล้านเยน ขณะที่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐสภาเพิ่งผ่านร่างงบประมาณเพิ่มเติมมูลค่า 18.3 ล้านล้านเยน เพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลมีแผนจะออกพันธบัตรใหม่มูลค่า 11.7 ล้านล้านเยน เพื่อระดมทุนให้ครอบคลุมกว่า 60% ของงบประมาณดังกล่าว
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดพันธบัตรยังถูกกดดันจากการขาดแคลนผู้ซื้อพันธบัตร เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ลดสัดส่วนการเข้าซื้อลง โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับนโยบายการเงินกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษมานานกว่าทศวรรษ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 68)
