
ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย นำโดย นายจอร์โจ กัมบา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย และนายนิธิ วชิรโกวิทย์ ผู้อำนวยการบริหารอาวุโส ฝ่ายจัดการด้านการเงินและบริหารสภาพคล่อง ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทยได้จัดงานเสวนาเรื่อง “การรวมศูนย์การบริหารจัดการทางการเงิน”
โดยงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการรวมศูนย์การบริหารจัดการทางการเงินที่จะช่วยเสริมศักยภาพให้ลูกค้าองค์กรและภาคธุรกิจไทยที่ขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลกโลก ทั้งนี้ มีผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย อาทิ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป [TU], บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล [MINT], บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย [SCC] และบมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า [CENTEL]
นายนิธิ วชิรโกวิทย์ ผู้อำนวยการบริหารอาวุโส ฝ่ายจัดการด้านการเงินและบริหารสภาพคล่อง ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า “การบริหารจัดการทางการเงินขององค์กรในปัจจุบันถือเป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจทางธุรกิจ ซึ่งจำเป็นต้องมีประสิทธิภาพและความคุ้มค่า จึงทำให้ลูกค้าองค์กรและภาคธุรกิจหันมาใช้การรวมศูนย์การบริหารจัดการทางการเงินกันมากขึ้น สำหรับลูกค้าองค์กรและภาคธุรกิจที่ต้องการขยายธุรกิจและเข้าสู่ตลาดใหม่
ฝ่ายบริหารจัดการทางการเงินจะต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ อาทิ การปฏิบัติตามนโยบายและข้อกำหนดในท้องถิ่นของตลาดใหม่ การมองเห็นกระแสเงินสดในแต่ละภูมิภาคอย่างชัดเจน การติดตามและป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในแต่ละตลาด”
ลูกค้าองค์กรและภาคธุรกิจจำนวนมากได้เลือกใช้การรวมศูนย์การบริหารจัดการทางการเงินเพื่อรับมือความท้าทายเหล่านี้ ด้วยการรวมกระบวนการทางการเงินและการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในส่วนที่ทำได้ ซึ่งการรวมศูนย์นี้จะช่วยสร้างประโยชน์สำคัญหลายประการ อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพและการควบคุม การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรวมศูนย์การบริหารจัดการทางการเงินจะช่วยให้มองเห็นภาพรวมการบริหารจัดการทางการเงินและควบคุมกระแสเงินสดทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น และหลีกเลี่ยงผลตอบแทนจากการลงทุนที่ต่ำกว่ามาตรฐานหรือต้นทุนการกู้ยืมที่ไม่จำเป็น
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารเอชเอสบีซีให้การสนับสนุนลูกค้าองค์กรและภาคธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องในการปรับตัวสู่การรวมศูนย์การบริหารจัดการทางการเงินขององค์กร โดยผลิตภัณฑ์และบริการของเรามีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กระบวนการรวมศูนย์บริหารจัดการทางการเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังทำงานร่วมกับลูกค้าในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ด้วยการให้บริการแก่ลูกค้าทั่วโลกผ่านสำนักงานใน 57 ประเทศและเขตดินแดน เราจึงเข้าใจตลาดท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งและผู้เชี่ยวชาญของเรายังสามารถช่วยลูกค้าองค์กรและภาคธุรกิจไทยในการบริหารจัดการความซับซ้อนของธุรกรรมทางการเงินในภูมิภาคต่าง ๆ ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและความเข้าใจในตลาดเป้าหมายของลูกค้า” นายนิธิ กล่าวสรุป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ธ.ค. 68)





