ญี่ปุ่นเตรียมออกพันธบัตรรัฐบาลชุดใหม่มูลค่าราว 1.89 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับงบประมาณปีถัดไป ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นประวัติการณ์ และสะท้อนท่าทีในการเดินหน้านโยบายการคลังเชิงขยายของรัฐบาลอย่างชัดเจน
งบประมาณดังกล่าวมีกำหนดสรุปอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้ (26 ธ.ค.) และนับเป็นงบประมาณฉบับแรกที่จัดทำขึ้นภายใต้การนำของ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งยึดแนวทางการใช้จ่ายเชิงรุกเป็นแกนหลักของนโยบายเศรษฐกิจ
ร่างงบประมาณระบุว่า มูลค่าการออกพันธบัตรสำหรับปีงบประมาณ 2569 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 29.6 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมของปีงบประมาณปัจจุบันที่ 28.6 ล้านล้านเยน ขณะที่ขนาดรวมของงบประมาณปีถัดไปมีแนวโน้มแตะราว 122.3 ล้านล้านเยน สูงกว่าระดับ 115.2 ล้านล้านเยนในปีนี้ และเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่
ด้านรายได้จากภาษีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ราว 83.7 ล้านล้านเยน จากประมาณ 80.7 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณปัจจุบัน แม้จะทำสถิติสูงสุดเช่นกัน แต่ยังไม่เพียงพอรองรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งด้านสวัสดิการสังคม การป้องกันประเทศ และภาระการชำระหนี้
นอกจากนี้ การใช้จ่ายขนาดใหญ่ยังเกิดขึ้นควบคู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 21.3 ล้านล้านเยน ซึ่งจัดทำขึ้นในเดือนพ.ย. และใช้งบประมาณเสริมของปีงบประมาณปัจจุบันเป็นแหล่งเงินทุน โดยมีเป้าหมายบรรเทาผลกระทบของครัวเรือนจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น
ความกังวลเกี่ยวกับปริมาณพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้น 0.025% มาอยู่ที่ระดับ 3.45% ในวันนี้ (24 ธ.ค.) และทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 68)
