ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรของเวเนซุเอลาแสดงความตั้งใจเมื่อวันศุกร์ (26 ธ.ค.) ที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐฯ บนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน โดยมีเงื่อนไขว่าสหรัฐฯ ต้องยุติการแทรกแซงกิจการภายในของเวเนซุเอลา
มาดูโรกล่าวผ่านการปราศรัยทางโทรทัศน์ว่า หากฝ่ายสหรัฐฯ มีความตั้งใจจะเจรจากับเวเนซุเอลาบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน และยอมละทิ้งความพยายามที่ล้มเหลวในการแทรกแซงเวเนซุเอลาตลอดช่วง 25 ปีที่ผ่านมา เขาก็พร้อมจัดการเจรจาและแสวงหาแนวทางสู่สันติภาพ ความร่วมมือ และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
มาดูโรวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ ว่า ดำเนินการใส่ร้ายรัฐบาลเวเนซุเอลาอย่างต่อเนื่อง พยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศ และมีความพยายามโค่นล้มผู้นำประเทศ
นอกจากนี้ เขาเรียกร้องให้สื่อสหรัฐฯ รายงานสถานการณ์ที่แท้จริงของเวเนซุเอลา หลังจากทำความเข้าใจเวเนซุเอลาอย่างรอบด้าน
ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ส่งกำลังทางอากาศและกองทัพเรือขนาดใหญ่เข้าประจำการในน่านน้ำทะเลแคริบเบียนใกล้เวเนซุเอลา โดยอ้างภารกิจปราบปรามสิ่งที่เรียกว่าเป็น “การก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด” พร้อมทั้งระบุว่า สหรัฐฯ ได้จมเรือที่ระบุว่าเป็นเรือขนยาเสพติดราว 30 ลำในทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 68)
