นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า หลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง การดำเนินการอื่น สำหรับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทตลาดสินค้า ที่มีลักษณะเฉพาะตามมาตรา 18 (2) แห่ง พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 และมีผลบังคับเมื่อพ้น 180 วันนับจากวันประกาศเป็นต้นไป ซึ่งตรงกับวันที่ 31 ธ.ค.68
โดยประกาศฯ ฉบับดังกล่าว กำหนดขึ้นเพื่อกำหนดหน้าที่เพิ่มเติม สำหรับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทตลาดสินค้า (Online Marketplace) มาตรา 18 (2) ที่มีลักษณะเฉพาะตามความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเงิน และพาณิชย์ และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อสาธารณชน ซึ่งถือแพลตฟอร์มมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการค้าออนไลน์ของประเทศ และเป็นช่องทางหลักที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการและผู้บริโภค มีส่วนสำคัญต่อความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมออนไลน์
การดำเนินการตามประกาศฯ จึงมิได้เป็นเพียงการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย แต่เป็นการยกระดับบทบาทของแพลตฟอร์มในการร่วมสร้างโลกออนไลน์ที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ และปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค อันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบการค้าออนไลน์ในภาพรวมอย่างยั่งยืน
สำหรับสาระสำคัญของประกาศ มีดังนี้
– การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า และผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับข้อมูลที่จำเป็นอย่างเพียงพอในการพิจารณาใช้บริการ หรือทำธุรกรรม
– การเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อการลงทะเบียนเป็นผู้ประกอบการด้วยระบบที่น่าเชื่อถือ รวมถึงต้องมีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลตามความเหมาะสม เพื่อยกระดับความเชื่อมั่น และลดความเสี่ยงจากการดำเนินการของผู้ประกอบการที่ไม่สามารถตรวจสอบได้
– การตรวจสอบการขาย หรือการโฆษณาสินค้าที่ต้องมีมาตรฐานของสินค้า กล่าวคือ สินค้าที่ต้องเป็นไปตามกฎหมายของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผู้ประกอบธุรกิจต้องมีมาตรการในการตรวจสอบและกำกับดูแลรายการสินค้า ตลอดจนแจ้งเตือนผู้ประกอบการเกี่ยวกับการขายสินค้า และดำเนินการ ลบ ระงับ หรือปิดกั้น สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่ประกาศกำหนด
– การแสดงข้อมูลสินค้าอย่างละเอียด และเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานสินค้า รวมถึงการแสดงใบจดแจ้ง หรือหลักฐานการรับรองมาตรฐาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม เช่น สมอ. และ อย.
– การรายงานผลการดำเนินการต่อหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถติดตามการดำเนินการตามมาตรการและหน้าที่ที่กำหนดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– การจัดให้มีกระบวนการแจ้งเตือน และนำออก (Notice and Take Down) ประกาศกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดให้มีกระบวนการดังกล่าวอย่างชัดเจน และเมื่อพบกรณีที่เข้าข่ายต้องดำเนินการ ต้องแจ้งเตือน และระงับการแสดงรายการสินค้า ชื่อผู้ขาย รวมถึงดำเนินการตรวจสอบข้อมูล และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่ประกาศกำหนด
– กำหนดให้มีมาตรการดูแล และเยียวยาผู้เสียหายตามสมควร
โดยที่ผ่านมา ETDA ได้มีการสื่อสารพร้อมหารือร่วมอย่างใกล้ชิดกับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ตลอดจนทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลัก และแนวปฏิบัติ เพื่อให้การให้บริการมีความสอดคล้องกับประกาศฯ รวมถึงกฎหมายและข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมยกระดับมาตรฐานของบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล และลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ธ.ค. 68)
