นายกฯ สั่งเร่งยกเว้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์สู้โควิด-19 เฝ้าระวังกิจกรรมรวมกลุ่ม

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำหนังสือรวบรวมมาตรการในการป้องกัน รักษา และบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบด้วย กระทรวงการคลังรวบรวมมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และกระทรวงวัฒนธรรมจัดทำจดหมายเหตุเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกและในประเทศไทย

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพ: thaigov.go.th)

พร้อมกันนั้น นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ยกเว้นภาษีอากรนำเข้า หน้ากากอนามัย เครื่องมือทางการแพทย์ อุปกรณ์ชุดตรวจหาไวรัสโควิด-19 และยาเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการใช้รักษาเชื้อไวรัสโควิด-19 และสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งกระบวนการตรวจเพื่อรับรองมาตรฐานให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ใช้เวลาดำเนินการภายใน 1 วัน และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ใช้เวลาดำเนินการภายใน 4 วัน รวมถึงให้กระทรวงพาณิชย์เข้มงวดในการคุมราคาสินค้าไข่ไก่ตั้งแต่หน้าฟาร์มและพ่อค้าคนกลางมากกว่าการค้าปลีกรวมถึงให้งดการส่งออกไข่ไก่ไปต่างประเทศในระยะนี้

ด้านการเดินทางสัญจร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม โดย กองทัพภาคที่ 4 กระทรวงมหาดไทย ปิดการเดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ รวมทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้เฝ้าระวังกิจกรรมที่มีลักษณะการรวมกลุ่มทุกกิจกรรม โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้มงวดในการออกอากาศรายการมวยทางโทรทัศน์ สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้มงวดในการควบคุมผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างหรือวินมอเตอร์ไซค์ สวมใส่หน้ากากอนามัย ปฎิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งให้จับกุมการลักลอบการเล่นพนัน การสังสรรค์อย่างผิดกฎหมายและฝ่าฝืนแข่งรถ

รวมทั้งกำชับแผนการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยต่อวันในช่วง 5 วันนี้เป็นการชั่วคราว จากจำนวนการผลิตหน้ากากอนามัยที่กระทรวงพาณิชย์สามารถจัดหาได้ 2.3 ล้านชิ้นต่อวัน จากการผลิตทั้ง 11 บริษัท ให้จัดสรรให้กระทรวงมหาดไทย 8 แสนชิ้น และกระทรวงสาธารณสุข 1.5 ล้านชิ้น โดยให้กระทรวงมหาดไทยแจกจ่ายผ่านบริษัทไปรษณีย์ไทยไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพื่อกระจายไปยังผู้ปฏิบัติงานทั้งอาสาสมัครสาธารณะสุข เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขจะทำการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยจำนวน 1.5 ล้านชิ้น ผ่านบริษัทไปรษณีย์ไทยไปยังสถานพยาบาลในกรุงเทพมหานคร และสถานพยาบาลใน 76 จังหวัด เพื่อนำไปให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ ที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเอกชน รวมทั้งจะมีทั้งส่วนของนักศึกษาแพทย์ และนักศึกษาพยาบาล ที่เตรียมพร้อมจะช่วยเหลือเพิ่มเติม อีกด้วย

ทั้งนี้ หากประชาชนชาวไทยที่เดินกลับจากต่างประเทศต้องกักกันตัวเองตามมาตรการเฝ้าระวังสังเกตอาการ 14 วัน และปฏิบัติตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด และให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย ประสานกับประเทศต่าง ๆ หากมีความประสงค์จะจัดเครื่องบินเพื่อมารับพลเมืองของตนเองออกนอกประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 มี.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top