สธ.เดินหน้าวิจัยภูมิคุ้มกันโควิด จากพลาสมาผู้ที่หายป่วย คาดรู้ผลเร็วกว่าผลิตวัคซีน

นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ ที่ปรึกษา รมช.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงโครงการรับบริจาคเลือด/พลาสมา ของผู้ป่วยโควิดโครงการวิจัยฮีโร่โควิด-19 ว่า ภูมิคุ้มกันที่ได้จากผู้หายป่วยจากโควิด-19 เป็นอีกองค์ความรู้หนึ่งที่ทางการแพทย์ใช้ป้องกันการติดเชื้อโรคนอกเหนือจากการได้รับวัคซีน โดยวิธีการนั้นจะขอรับบริจาคเลือด/พลาสมาของผู้หายป่วยจากโควิด-19 และผู้ที่เคยสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด-19 ประมาณคนละ 30 ซี.ซี.

“เรามองหาทุกช่องทางที่มีความเป็นไปได้ในการเอาชนะโรค เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ” ” นพ.คณวัฒน์ กล่าว

สำหรับการวิจัยครั้งนี้จะมีระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน และ 9 เดือน เพื่อดูว่าภูมิคุ้มกันดังกล่าวมีความคงทนมากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าจะรู้ผลได้เร็วกว่าการผลิตวัคซีน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทดลองระยะที่สอง และจะเริ่มทดลองในคนราวปลายปีนี้

นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันเกือบ 40 วันแล้วจะถือว่ามีความปลอดภัยมากก็ตาม แต่ยังไม่ควรประมาท เพราะอาจเกิดการลักลอบเข้าประเทศจากแนวชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน

“ขณะนี้ผ่านมา 39 วันแล้วถือว่าปลอดภัยมาก แต่อย่าประมาทดีกว่า เราคงต้องอยู่กับโรคนี้อีกเป็นปี จนกว่าจะมีวัคซีน อาจจะเป็นปลายปีหน้า เพราะขณะนี้เพิ่มอยู่ในขั้นทดลองในสัตว์” นพ.อนุพงศ์ กล่าว

สำหรับการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้กิจการ/กิจกรรมดำเนินการได้ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่การพิจารณาต้องคำนึงถึงความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ระยะเวลา อากาศถ่ายเท การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต โดยความเสี่ยงเริ่มมีมากขึ้นในกิจการ/กิจกรรมระยะที่ 4 มาจนถึงขณะนี้ที่มีการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมระยะที่ 5 บางส่วน ดังนั้นจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งผู้ใช้บริการ และผู้ประกอบการ ในการใช้แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” เพื่อให้ผู้กำกับดูแลสามารถติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ประชาชนควรยึดถือคือการรักษาสุขอนามัยต่อเนื่อง ทั้งการสวมหน้ากาก กินร้อน-ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ ไม่เดินทางไปในพื้นที่แออัด

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าในการศึกษาและผลิตวัคซีนโควิด-19 ว่า ได้รับรายงานว่า ผลการทดสอบวัคซีนในสัตว์ทดลองเป็นไปในทิศทางบวก เกิดภูมิต้านทานในสัตว์ทดลอง โดยเฉพาะหนู ขณะที่ลิง มีภูมิต้านทาน แต่น้อยกว่า ทางผู้เชี่ยวชาญกำลังศึกษาเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ

ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เตรียมความพร้อม หากมีความสำเร็จในการผลิตวัคซีน ต้องสามารถขึ้นทะเบียนได้เลย มองว่า การสนับสนุนเต็มที่นั้น อาจต้องใช้เงินมาก แต่หากประสบความสำเร็จ ไทยมีวัคซีน เป็นของตัวเอง ก็ย่อมคุ้มค่า ทั้งนี้ การใช้งบ ต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส่ และ มีประสิทธิภาพ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 63)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top