เฟดตรึงดอกเบี้ยที่ 0.00-0.25% ตามคาด พร้อมหนุนเศรษฐกิจฟื้น

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวานนี้ว่า การแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 และจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทั่วสหรัฐกำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

          “กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเชื่องช้านับตั้งแต่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มกลับมาสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา สหรัฐกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญของการต่อสู้กับวิกฤตด้านสาธารณสุขและการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ”

          “แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก และการที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้รวดเร็วเพียงใดนั้น จะขึ้นอยู่กับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด และความพยายามของรัฐบาลในการใช้มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจ” นายพาวเวลกล่าว

          อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงมากเพียงใดและยาวนานเพียงใด เนื่องจากเฟดต้องประเมินภาพรวมจากข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและการจ้างงาน ซึ่งเป็นสองดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจที่เฟดกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด

          นอกจากนี้ นายพาวเวลยังให้คำมั่นว่า เฟดจะใช้มาตรการและเครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมกับกล่าวว่า “แม้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็มีความท้าทายใหม่ๆ รออยู่ข้างหน้า สิ่งที่เราควรเร่งดำเนินการในเวลานี้คือควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสให้เร็วที่สุด และใช้มาตรการที่จำเป็นในการรับมือกับผลกระทบ”

          ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เฟดมีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา 

          ขณะเดียวกันเฟดระบุว่าจะขยายเวลาสำหรับข้อตกลงสว็อปดอลลาร์เพื่อให้สภาพคล่องแก่ธนาคารกลางทั่วโลก รวมทั้งมาตรการซื้อคืนพันธบัตรจนถึงวันที่ 31 มี.ค.2564 

          นอกจากนี้ เฟดจะยังคงถือครองพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนเพื่อสร้างเสถียรภาพต่อตลาดการเงิน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top