ฮ่องกงพบผู้ติดโควิดซ้ำรายแรกแต่ไม่แสดงอาการ ต้องพึ่งวัคซีนสกัดการระบาด

ทีมนักวิจัยของฮ่องกงรายงานการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซ้ำเป็นครั้งที่สอง โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวเป็นชายวัย 33 ปีซึ่งมีสุขภาพแข็งแรง แต่เขาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำเป็นครั้งที่สองหลังเดินทางกลับจากประเทศสเปน ซึ่งเว้นระยะเวลาห่างจากการติดเชื้อครั้งแรกประมาณ 4 เดือนครึ่ง

นักวิจัยระบุว่า ผลการตรวจหาลำดับนิวคลิโอไทด์ใน DNA (Genome Sequencing) ของผู้ติดเชื้อรายนี้พบว่า เขาติดเชื้อไวรัส 2 สายพันธุ์ที่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดในการติดเชื้อครั้งแรกและครั้งที่สอง และนับเป็นกรณีการติดเชื้อซ้ำเป็นรายแรกของโลก

ทั้งนี้ การค้นพบดังกล่าวถือเป็นกรณีที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการที่มีประชาชนหลายคนล้านทั่วโลกติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยชายผู้นี้ไม่มีอาการป่วยใดๆ ในการติดเชื้อครั้งที่สอง ซึ่งบ่งชี้ว่า แม้ว่าการติดเชื้อในครั้งแรกไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ แต่ระบบภูมิคุ้มกันของชายผู้นี้ยังคงสามารถควบคุมความรุนแรงของไวรัสที่ติดเชื้อซ้ำได้

ดร.อากิโกะ อิวาซากิ นักภูมิคุ้มกันวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งแม้ว่าไม่ได้เข้าร่วมในการวิจัยนี้ แต่ก็ได้แสดงความเห็นตามคำขอของหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส โดยกล่าวว่า ในกรณีนี้ การติดเชื้อครั้งที่สองไม่ได้แสดงอาการป่วยใดๆ เลย ซึ่งบ่งชี้ว่า ระบบภูมิคุ้มกันของชายผู้นี้สามารถปกป้องตัวเขาจากความรุนแรงของเชื้อโรคหลังจากการติดเชื้อครั้งที่สอง

อย่างไรก็ดี ดร.อิวาซากิกล่าวว่า “กรณีของชายผู้นี้บ่งชี้ว่า มีภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นตามธรรมชาติซึ่งสามารถป้องกันความรุนแรงของเชื้อโรคได้ แต่ไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อซ้ำ” พร้อมทั้งระบุว่า ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการใดๆ อาจยังคงสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ ซึ่งก็หมายความว่า วัคซีนยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการป้องกันการติดเชื้อซ้ำ

ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนว่า ยังไม่ควรด่วนสรุปเกี่ยวกับกรณีนี้ เนื่องจากเพิ่งพบผู้ติดเชื้อซ้ำในลักษณะนี้เพียงรายเดียว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 63)

Tags: , , , , , , , ,
Back to Top