“พาวเวล”ชี้กิจกรรมทางศก.สหรัฐยังต่ำ-ทิศทางศก.เผชิญความไม่แน่นอนสูงมาก

นายเจอโรม พาวเวล ประธานาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้ายังคงมีความไม่แน่นอนที่สูงมาก

นายพาวเวลได้กล่าวถึงสถานการณ์ในตลาดแรงงานสหรัฐว่า “แม้ตัวเลขการจ้างงานเริ่มฟื้นตัวเนื่องจากประชาชนเริ่มกลับเข้าทำงาน แต่อัตราว่างงานที่ระดับ 8.4% ในเดือนส.ค.ยังถือว่าสูงมาก และคาดว่าอัตราว่างงานอาจจะสูงกว่าข้อมูลที่เจ้าหน้าที่รายงานอยู่ประมาณ 3% เมื่อพิจารณาจากอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน (labor force participation) ที่ปรับตัวลดลง”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการกำหนด “เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย” ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่เฟดได้แถลงการการประชุมล่าสุดนั้น นายพาวเวลกล่าวว่า “เราพยายามสร้างสูตรบางอย่างขึ้นเพราะเราต้องการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ซึ่งหากเราดำเนินการตามสูตรนั้นแล้ว ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อก็จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 2% ซึ่งจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% และสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เฟดอาจจะสูญเสียความสามารถในการสนับสนุนเศรษฐกิจได้”

นอกจากนี้ นายพาวเวลยังกล่าวว่า การเพิ่มมาตรการสนับสนุนด้านการคลังยังคงจำเป็นต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก และธุรกิจขนาดเล็กยังคงเผชิญกับความยากลำบาก ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นก็ยังคงเผชิญกับภาวะตึงตัวด้านการเงิน

ในการประชุมครั้งนี้ เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566 นอกจากนี้ ที่ประชุมเฟดยังได้ระบุถึงการกำหนด”เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย” ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ของเฟดในการทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า “จากการที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดอย่างต่อเนื่อง FOMC จึงตั้งเป้าหมายที่จะให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ในบางช่วงเวลา เพื่อให้อัตราเฉลี่ยของเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2% และให้ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2% โดย FOMC จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว”

แถลงการณ์ยังระบุว่า “เฟดจะรักษาช่วงเป้าหมายเงินเฟ้อดังกล่าว จนกว่าสภาวะในตลาดแรงงานจะสอดคล้องกับการประเมินของเฟดโดยมีการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2% ขณะที่มีแนวโน้มสูงกว่า 2% เล็กน้อยในบางช่วงเวลา”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top