เงินบาทเปิด 30.99/31.02 ต่อดอลล์ รอผลประชุม กนง.พรุ่งนี้

เงินบาทเปิด 30.99/31.02 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดรอผลประชุมกนง.พรุ่งนี้คาดมีโอกาสลดดอกเบี้ย มองกรอบ 30.90-31.05

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.99/31.02 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.05/06 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นจากเมื่อเย็นวาน โดยวันนี้มองว่ายังไม่มีปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทมากนัก ตลาดรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้ โดยเห็นว่ามีโอกาสที่กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยลง ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาในหลายประเทศทั่วโลก ยังเป็นสิ่งที่ตลาดกังวล

“วันนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรมาก การเคลื่อนไหวคงมาจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน เพราะตลาดยังรอผลประชุม กนง.วันพรุ่งนี้ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ย แต่คงไม่ได้ลดถึง 0.50%” นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.90-31.05 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (3 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.98526% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.92391%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.70/75 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.50/53 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1055/1065 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1068/1069 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1910 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ขยายโครงการคลินิกแก้หนี้ระยะที่ 3 โดยครอบคลุมลูกหนี้ที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลแบงก์รัฐจากธนาคารออมสิน จากเดิมให้เฉพาะธนาคารพาณิชย์ และนอนแบงก์ รวมทั้งขยายเข้าร่วมแม้มีเจ้าหนี้เพียงรายเดียว และรวมลูกหนี้ที่ถูกดำเนินคดีในชั้นศาลและมีคำพิพากษาแล้ว (คดีแดง) จากเดิมลูกหนี้ต้องไม่ถูกดำเนินคดีเท่านั้น ซึ่งคลินิกแก้หนี้ระยะ 3 ต้องเป็นเอ็นพีแอลก่อนวันที่ 1 ม.ค. 63
  • กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในส่วนของกระทรวงการคลัง ให้ที่ประชุมครม.พิจารณา ประกอบด้วย มาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน มาตรการขยายเวลายื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามาตรการกระตุ้นประชาชนให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และมาตรการหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่ปรับปรุงสถานประกอบการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และดูแลเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้
  • “ไทยบีเอ็มเอ” เผย “บอนด์ยิลด์” ร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังนักลงทุนกังวลไวรัสโคโรนา ถ่วงเศรษฐกิจ แห่ลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย กดดันผลตอบแทนรุ่นอายุ 10 ปี เหลือแค่ 1.27% เกือบเท่าดอกเบี้ยนโยบาย ชี้แรงซื้อบางส่วนเก็งกำไร กนง. หั่นดอกเบี้ยนโยบายเพิ่ม
  • คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงยืนยันว่า ณ วันจันทร์ที่ 3 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นอีก 64 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 425 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3,235 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 20,438 ราย
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงจุดยืนสนับสนุนความพยายามของจีนในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และมั่นใจว่าเศรษฐกิจจีนยังคงมีความหยืดหยุ่น
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นในเดือนม.ค. หลังจากที่หดตัวลงติดต่อกัน 5 เดือน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวในเดือนม.ค. หลังจากหดตัวติดต่อกัน 5 เดือน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, ดุลการค้าเดือนธ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
  • ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรส ในวันนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธ เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
  • วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติต่อญัตติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งในวันพุธ เวลา 16.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือวันพฤหัสบดี เวลา 04.00 น.ตามเวลาไทย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.พ. 63)

Tags: , ,
Back to Top