หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มรีบาวด์หลังเข้าเขต Oversold เก็งทำ Window Dressing

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ทางเทคนิคหลัง Sentiment หุ้นต่างประเทศดี โดยตลาดภูมิภาคเช้านี้บวกราว 0.4-0.5% หลังข่าวพรรคเดโมแครตจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่สภา-อย่างเร็วคาดว่าจะสัปดาห์นี้ ส่วนบ้านเราเข้าเขต Oversold แล้ว-ลุ้นเก็งตามการทำ Window Dressing รายตัวก่อนปิดงบฯไตรมาส 3/63 อย่างไรก็ดีตลาดอาจรีบาวด์จำกัดหลังการเมืองยังกดดัน-ต้องติดตามการโต้วาทีผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ-ตัวเลข PMI ทั่วโลก-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ พร้อมให้แนวรับ 1,240-1,230 แนวต้าน 1,255-1,260 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีลุ้นรีบาวด์ทางเทคนิค หลัง Sentiment หุ้นต่างประเทศดี โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างบวกกันราว 0.4-0.5% หลังข่าวพรรคเดโมแครตจะเสนอนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่สภา ซึ่งอย่างเร็วก็คาดว่าจะสัปดาห์นี้

ส่วนตลาดบ้านเราก็เข้าสู่เขต Oversold แล้ว ทำให้น่าจะรีบาวด์ได้บ้าง และอาจมีการเก็งกำไรตามการทำ Window Dressing รายตัวก่อนปิดงบฯไตรมาส 3/63 อย่างไรก็ดี ตลาดฯอาจรีบาวด์ได้จำกัดเนื่องจากมีปัจจัยการเมืองกดดัน และยังต้องติดตามการโต้วาทีผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯด้วย และยังต้องติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิต และภาคบริการของทั่วโลกที่จะทยอยออกมา รวมทั้งติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้

พร้อมให้แนวรับ 1,240-1,230 จุด ส่วนแนวต้าน 1,255-1,260 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,173.96 จุด เพิ่มขึ้น 358.52 จุด (+1.34%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,298.46 จุด เพิ่มขึ้น 51.87 จุด (+1.60%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,913.56 จุด เพิ่มขึ้น 241.30 จุด (+2.26%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 22.37 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 187.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.93 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 49.45 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 48.67 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.12 จุด,
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.ย.63) 1,244.94 จุด ลดลง 2.52 จุด (-0.20%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 879.92 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ย.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ก.ย.63) ปิดที่ 40.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.ย.) อยู่ที่ 0.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.62 อ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง ตลาดรอปัจจัยใหม่ ให้กรอบ 31.55-31.70
  • พลังงานขอถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนชงแผนปรับโครงสร้างก๊าซฯ เสรีใหม่ คาดได้ข้อสรุป ยื่น กพช.ภายใน ต.ค.นี้ ด้าน กกพ. ชี้ความต้องการใช้ก๊าซฯ ยังโต ทำให้มีการนำเข้า LNG เพิ่มขึ้น
  • ผ่านฉลุยมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศวงเงิน 5.1 หมื่นล้านบาท “คลัง” ตั้งแท่นแจกเงินเบ็ดเสร็จ 24 ล้านคน เติมเงินเพิ่มในบัตรคนจนอีก 500 บาทต่อคน ช่วง 3 เดือน พร้อมแจก 3,000 บาท ให้ 10 ล้านคน ในโครงการคนละครึ่ง
  • นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ว่า มีแนวโน้มซึมยาว ต่อเนื่องไปอีก 2 ปี จากภาวะเศรษฐกิจ ที่ได้รับ ผลกระทบจาก ไวรัสโควิด-19 และยังไม่มีความแน่นอนว่าจะมีการใช้วัคซีน ออกมารักษาได้เมื่อใด
  • นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา วงเงิน 33,258 ล้านบาท และหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี วงเงิน 27,828 ล้านบาท ว่าความคืบหน้าการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) ของทั้ง 2 โครงการนั้น ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบไปแล้วเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ขณะนี้ ทล. อยู่ระหว่างรอคำตอบจากอัยการสูงสุดที่ได้พิจารณาเอกสารแนบท้าย สัญญาให้อัยการสูงสุดตรวจพิจารณาเพื่อให้เกิดความชัดเจนรอบคอบ ก่อนที่จะมีการลงนามในสัญญากับเอกชนผู้ชนะการประมูล คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR (ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอสกรุ๊ปโฮลดิ้งส์ ร่วมกับบมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดี เวลลอปเมนท์ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ราช กรุ๊ป)

หุ้นเด่นวันนี้

  • OSP (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 43 บาท แม้ระยะสั้นอาจถูกกดดันเล็กน้อยจากประเด็นการควบคุมรถขนส่งการค้าชายแดนไทย-เมียนมาหลังผู้ติดเชื้อในเมียนมาสูงขึ้น แต่ยังคงมุมมองกำไร H2/63 ฟื้นตัวตาม Demand หลัง Reopen การรับรู้กำลังการผลิตส่วนเพิ่มเต็มไตรมาส และภาษีสรรพสามิต Functional Drink ที่ลดลง พร้อมคาดกำไรปี 2563-2564 +4% Y-Y และ +15% Y-Y ตามลำดับ และคาดได้ประโยชน์จากโครงการ “คนละครึ่ง” ราคาหุ้นคาดมี Downside จำกัด ขณะที่ผู้บริหารทยอยซื้อหุ้นต่อเนื่องบริเวณ 37-39 บาท
  • CBG (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 145 บาท ราคาหุ้นสะท้อนผลลบจาก lockdown กรุงย่างกุ้งไปแล้ว (เมียนมาคิดเป็น 10% ของรายได้รวม) ภาพรวมกำไรยังโตต่อ จากยอดขายเพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์ใหม่ WOODY C+ Lock กระแสตอบรับดี และต้นทุนลดจากการผลิตขวดแก้วเอง เห็นสัญญาณซื้อสุทธิใน TFEX ต่อเนื่อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 63)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top