หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มแกว่งแคบ วิตกกลับมาใช้เกณฑ์ปกติ”ชอร์ตเซล”พรุ่งนี้

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ หลังไร้ปัจจัยขับเคลื่อน เชื่อ Fund Flow ยังไม่ไหลเข้า อีกทั้งยังต้องติดตามการเมืองในประเทศ-สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง รวมถึงวันนี้อาจเผชิญแรงกดดันจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะกลับมาใช้เกณฑ์ปกติของ Short Sell และซีลลิ่ง & ฟลอร์ ในวันพรุ่งนี้ มองเป็นความเสี่ยงของหุ้นใหญ่ พร้อมให้แนวรับ 1,250 แนวต้าน 1,265-1,270 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ เนื่องจากตลาดไม่มีปัจจัยขับเคลื่อน และเชื่อว่า Fund Flow ก็ยังคงไม่ไหลเข้าช่วงนี้ ทำให้ไม่เห็นตลาดปรับตัวขึ้นไปอย่างมีนัย อีกทั้งยังต้องติดตามพัฒนาการการเมืองในประเทศ และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ วันนี้ตลาดฯอาจเผชิญแรงกดดันจากการกลับมาใช้เกณฑ์ปกติของ Short Sell และซีลลิ่ง& ฟลอร์ ในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) ด้วย ซึ่งก็ต้องจับตาดูว่าจะเป็นอย่างไร โดยมองว่าเป็นความเสี่ยงสำหรับหุ้นขนาดใหญ่

พร้อมให้แนวรับ 1,250 จุด ส่วแนวต้าน 1,265-1,270 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,452.66 จุด ลดลง 131.40 จุด (-0.48%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,335.47 จุด ลดลง 16.13 จุด (-0.48%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,085.25 จุด ลดลง 32.28 จุด (-0.29%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 60.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.88 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.92 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 273.36 จุด
  • ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ก.ย.63) 1,257.34 จุด ลดลง 5.68 จุด (-0.45%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,494.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ก.ย.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 ก.ย.63) ปิดที่ 39.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.31 ดอลลาร์ หรือ 3.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ก.ย.) อยู่ที่ 1.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.64/65 แข็งค่าจากวานนี้เล็กน้อย ตลาดรอดูตัวเลขเศรษฐกิจไทยบ่ายนี้
  • เวิลด์แบงก์ หั่น “จีดีพี” ไทยติดลบเพิ่มเป็น 8.3% จากเดิมลบ 5% พิษโควิดกระทบหนักกว่าคาด ส่วนปีหน้าโต 4.9% พร้อมประเมินต้องใช้เวลา 2 ปีกว่าจะกลับมาอยู่ระดับเดียวก่อนโควิด ย้ำยังมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมรออื้อ ทั้งการเมือง ภัยธรรมชาติ การระบาดรอบสอง ชี้หากเชื่อมั่นนักลงทุนทรุดส่อฉุดจีดีพีหดตัวหนักถึง 10.4% ด้าน “แบงก์ชาติ” เล็งยืดเวลายื่นขอ ซอฟท์โลนให้อีก 2 ครั้ง ถึงสิ้นปี 2564 เปิดทางเอสเอ็มอีกู้เพิ่ม
  • ครม.เคาะกระตุ้นการบริโภค 23 ล้านคน โครงการ “คนละครึ่ง” พร้อมเพิ่มกำลังซื้อ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐช่วง 3 เดือน รวมวงเงิน 5.1 หมื่นล้าน “คลัง” คาดคนละครึ่งหนุนจีดีพี 0.25% เติมเม็ดเงินเข้าระบบถึง 8.1 หมื่นล้านบาท
  • ครม.ไฟเขียวต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน สิ้นสุด 31 ต.ค. 63 นายกฯ ย้ำเปิดรับนักท่องเที่ยว ตปท.เข้าไทย ต้องถามสังคม ประชาชนก่อน รับได้หรือไม่ ยันไม่ได้เปิดประเทศให้มีท่องเที่ยว แต่จำกัดจำนวนให้ดูแลได้ ทุกประเทศต้องยอมรับกติกากฎหมายไทย ขณะที่ ททท.เผย นักท่องเที่ยวจากกวางโจวชุดแรก 120 คน ดีเดย์เข้าไทย 8 ต.ค.นี้ ศบค.ส่งสัญญาณ พบติดเชื้อโควิดรายใหม่ 14 ราย เป็นทหารไทยซูดานใต้ป่วยเพิ่ม 7 ราย รักษาที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า
  • “กรุงไทย” คาดหากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ส่งผลเม็ดเงินต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยอีก 3-5 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันขายสุทธิ 2.73 แสนล้านบาท กดดันทั้งปีทิ้งหุ้น-บอนด์รวม 3-3.5 แสนล้านบาท

หุ้นเด่นวันนี้

  • RS (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 22 บาท แนวโน้มกำไร H2/63 คาดยังแข็งแรง โตทั้ง H-H และ Y-Y หนุนจากธุรกิจ Commerce ที่โตดีจากการเพิ่ม SKU สินค้า ส่วนธุรกิจสื่อและเพลงทยอยฟื้นอย่างช้าๆตามการ Reopen และเศรษฐกิจ พร้อมประมาณการกำไรปกติปี 63-64 ปัจจุบันคาด +53% Y-Y และ 19% Y-Y ตามลำดับ โดยอาจมี Upside จากทั้งการดำเนินงานปัจจุบันและดีล M&A ในอนาคต
  • BANPU (กรุงศรี) “ซื้อเก็งกำไร”เป้า 7.9 บาท เก็งกำไรราคาถ่านหินฟื้นตัว และมีลุ้นทางการจีนผ่อนคลายการนำเข้าถ่านหินช่วยหนุนดีมานด์ (ปัจจุบันราคาถ่านในจีน 80 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าราคานำเข้า 60 เหรียญสหรัฐ/ตัน)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top