เงินบาทเปิด 31.03 ต่อดอลล์ แนวโน้มผันผวนตามแรงซื้อขาย

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.03 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.96 บาท/ดอลลาร์

“บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ แต่มีทิศทางผันผวนไปตาม flow ทั้งสองข้าง” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้จะอยู่ระหว่าง 30.90 – 31.10 บาท/ดอลลาร์ ช่วงนี้มีกระแสเงินทุนไหลออก และต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ตลอดจนมาตรการต่อเนื่องหลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.0%

THAI BAHT FIX 3M (5 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.95285% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.92276%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 109.84 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.69 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0995 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1024 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.0990 บาท/ดอลลาร์
  • สทท.วอนรัฐพักชำระดอกเบี้ยเงินต้น เลื่อนจ่ายประกันสังคม-ภาษีประจำปี และกองทุนประกันสังคม จนกว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาจะคลี่คลาย โอดนักท่องเที่ยวต่างชาติหายเกือบ 100% แนะผ่อนเกณฑ์ให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้าถึงเงินกู้มากขึ้น
  • ตลท.มั่นใจหุ้นไทยฟื้นจากไวรัสโคโรนาเร็ว หลังพื้นฐานเศรษฐกิจไทยมีภูมิต้านทานดี แข็งแกร่ง แม้ในเดือน ม.ค.จะถูกกระทบแรงพร้อมคงเป้าไอพีโอใหม่ที่ 250,000 ล้านบาท
  • กรรมการผู้จัดการบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยถึงยอดขายรถยนต์รวมปีนี้ว่า น่าจะลดจาก 1.007 ล้านคันมาอยู่ที่ 930,000 คัน เทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายอย่าง ทั้งเศรษฐกิจโลก ปัญหาภัยแล้ง การแข็งค่าของเงินบาท และการส่งออก อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด แต่ถ้ารัฐบาลสามารถบริหารจัดการเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ให้เข้าสู่ระบบได้อย่างรวดเร็วเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ เบาบางลงได้
  • ขณะนี้ภาคเอกชนและสถาบันการเงินหลายแห่งต่างออกมาปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ในปี 63 ลงเหลือไม่เกิน 2.1-2.2% จากที่เคยคาดการณ์กันไว้ที่ระดับ 2.7-2.8% หลังจากได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการท่องเที่ยว การส่งออก ความล่าช้าของพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 รวมถึงปัญหา ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อรายได้เกษตรกร
  • ศาลรธน.นัดวินิจฉัย พ.ร.บ.งบฯ 63 ขัดรธน.หรือไม่ 7 ก.พ. และนัดชี้ชะตา “ยุบ-ไม่ยุบ” อนาคตใหม่ 21 ก.พ.นี้
  • คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า ณ วันพุธที่ 5 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นอีก 73 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 563 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3,694 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 28,018 ราย
  • ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะเพิ่มความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 291,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2558 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง จากระดับ 199,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.
  • ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 54.9 ในเดือนธ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 55.0 โดยดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานปรับตัวลง
  • ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.4 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากระดับ 52.8 ในเดือนธ.ค.
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงในปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี โดยได้อานิสงส์จากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งทำให้ตัวเลขการนำเข้าของสหรัฐลดลง ขณะที่ตัวเลขการส่งออกก็ลดลงเช่นกัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักถึง 1.7% ในวันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกในตลาด และส่งผลให้สัญญาทองคำปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2512

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top