นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่งจังหวัด (อบจ.) ลงสนามเขย่าเลือกตั้งท้องถิ่น ภายใต้แคมเปญ “เปลี่ยนประเทศไทยเริ่มได้ที่บ้านเรา”
โดยระบุว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นการเมืองที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน และมีงบประมาณในการบริหารงานจำนวนมหาศาล แต่ที่ผ่านมาการทำงานของนักการเมืองท้องถิ่นยังไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกันกลับมีปัญหาการทุจริต โดยมีการนำงบประมาณไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง
สำหรับแนวทางการต่อสู้ในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นของคณะก้าวกน้ายังยึดแนวทางการทำงานของพรรคอนาคตใหม่เดิม คือ การรณรงค์หาเสียงด้วยนโยบายด้วยความคิด ไม่ใช่ด้วยการซื้อเสียง เพราะการซื้อเสียงเป็นจุดเริ่มต้นของการทุจริตคอร์รัปชั่น และเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่สร้างให้เกิดระบบอุปถัมภ์ในประเทศไทย
นายธนาธร กล่าวว่า ที่มาของนโยบายมาจากกรอบแนวคิดและอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ที่เชื่อว่าคนเท่าเทียมกัน อุดมการณ์ที่ต้องการจะผลักดันให้ประเทศไทยเท่าทันโลก จากแนวคิดหลัก”คนเท่าเทียมกัน ประเทศไทยเท่าทันโลก”กลายมาเป็นเสาหลักของนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งนโยบายระดับชาติสามารถผลักดันด้วยฝ่ายบริหาร โดยการแก้กฎหมาย
แต่หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ คณะก้าวหน้าได้มาทำงานการเมืองท้องถิ่น การแปรนโยบายระดับชาติ กรอบแนวคิด อุดมการณ์ ทำให้เป็นนโยบายที่จับต้องได้ในระดับท้องถิ่น และจากการลงพื้นที่หลายจุดในช่วงที่ผ่านมา ผู้สมัครของคณะก้าวหน้ามีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ของตนเอง เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าในจังหวัดบึงกาฬ, การจัดระบบขนส่งสาธารณะ 22 เส้นทางย่อยเพื่อเชื่อมต่อไปยังระบบคมนาคมสายหลักในจังหวัดนนทบุรี, การจัดระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอุบลราชธานี, การจัดการคลองสาธารณะที่ประสบปัญหาดินสไลด์ ตื้นเขิน และน้ำเสีย, การฟื้นฟูอาชีพประมงที่จังหวัดระยอง, การแก้ปัญหาขยะที่จังหวัดพิษณุโลก, โครงการอาหารกลางวันโรงเรียนที่จังหวัดนนทบุรี, การแก้ปัญหาหนังสือเรียนขาดแคลน, การจัดทำเว็ปไซต์นำเสนอข้อมูลให้ประชาชนเข้ามาร่วมพัฒนา
“บางทีเราอาจไม่ต้องคิดหาเรื่องใหม่ แค่ปรับปรุงทรัพย์สินที่มีอยู่ให้สามารถใช้งานได้ดีก็เพียงพอ”
นายธนาธร กล่าว
สำหรับผู้สมัครของคณะก้าวหน้าชุดแรกจะมี 32 จังหวัด ซึ่งหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ทำงานเพื่อให้เกิดสิงที่ดีกว่าเดิม แต่กำลังพิจารณาเพิ่มเติมอีก 7 จังหวัด และยังคงเปิดรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมอุดมการณ์เพิ่มเติม
นายธนาธร กล่าวว่า การกำหนดวันเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญและมีผลทางการเมือง ซึ่งเห็นว่าวันที่ 13 ธ.ค.63 มีความเหมาะสม เนื่องจากเป็นช่วงที่รัฐบาลประกาศให้หยุดยาวอยู่แล้ว และประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอยู่แล้ว หากให้เลือกตั้งวันที่ 20 ธ.ค.63 อาจทำให้คนกลับไปใช้สิทธิ์น้อยลง เพราะเพิ่งเดินทางกลับไปช่วงหยุดยาววันที่ 13 ธ.ค.63 และวันหยุดยาวช่วงปลายเดือนต้องเดินทางกลับบ้านอีก
“วันที่ 13 ธ.ค. มีความเหมาะสม ถ้าให้จัดเลือกตั้งวันที่ 20 ธ.ค. แสดงว่ากลัวคณะก้าวหน้า จึงหาทางสกัดให้คนมาใช้สิทธิน้อยลง”
นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรใช้โอกาสนี้พิสูจน์ตัวเอง จากที่เคยเกิดวิกฤตศรัทธาของประชาชน โดยสิ่งที่ กกต.ต้องทำตามภาระหน้าที่ง่ายนิดเดียวคือจัดการเลือกตั้งให้โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม อย่าให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยได้อีก
ส่วนกรณีที่นางนันทิดา แก้วบัวสาย จะลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น ในนามทีมสมุทรปราการก้าวหน้าจะทำให้ประชาชนสับสนหรือไม่นั้น นายธนาธร กล่าวว่า ผู้สมัครของคณะก้าวหน้าใช้ชื่อเดียวกันทั่วประเทศ และอยากให้ประชาชนพิจารณาถึงผลเสียของการเมืองผูกขาดว่า ในช่วงที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นบ้าง
พร้อมยืนยันว่า คณะก้าวหน้าจะไปร่วมชุมนุมกับคณะราษฎรในวันที่ 14 ต.ค.นี้แน่นอน เพื่อสะท้อนความต้องการของประชาชนให้ผู้มีอำนาจพิจารณาว่าจะหาทางออกอย่างไร ส่วนกรณีที่จะมีผู้แจ้งความเอาผิดตนในข้อหาม. 112 นั้นก็ไม่ขัดข้อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (9 ต.ค. 63)
Tags: กกต., การเมือง, คณะกรรมการการเลือกตั้ง, คณะก้าวหน้า, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นันทิดา แก้วบัวสาย, อบจ., เลือกตั้งท้องถิ่น