ไทยไม่ให้เรือ’เวสเทอร์ดัม’ เทียบท่า แต่พร้อมช่วยเหลือ

นายกฯ เผยไม่อนุญาตเรือสำราญฮ่องกงเทียบท่าป้องกันไวรัสแพร่ระบาด แต่พร้อมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ทางการไทยไม่อนุญาตให้ “เรือสำราญเวสเทอร์ดัม” จากฮ่องกงเข้าเทียบท่าในประเทศไทย เพราะมีผู้โดยสารเป็นจำนวนมากกว่า 2 พันคน เกรงว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เช่น การเติมน้ำมัน ส่งเสบียงน้ำและอาหาร ซึ่งเป็นการดำเนินการเช่นเดียวกับในต่างประเทศ จึงขอให้เข้าใจด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ภาพ: thaigov.go.th)

“มีคนจำนวนมาก 2 พันกว่าคนบนเรือ เพราะฉะนั้นเราต้องระมัดระวังการแพร่กระจายไประยะที่ 3 วันนี้เราอยู่ในระยะที่ 2 ยังคอนโทรลได้ ควบคุมได้ หรือดูแลผู้ที่มาจากต่างประเทศได้ แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทางกระทรวงสาธารณสุขประชุมและชี้แจงมาตรการเตรียมการหากสถานการณ์ก้าวขึ้นไปสู่ระดับของการแพร่ระบาด โดยเป็นการเตรียมความพร้อมในขั้นต้น แต่ก็ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะหากทำได้ดีครบถ้วนก็ไม่มีปัญหา

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์หารือกับผู้ประกอบการผลิตหน้ากากอนามัยให้เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น ซึ่งได้รับรายงานว่ามีการเพิ่มวงรอบการผลิตขึ้นมาแล้วเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน และต้องมีการกระจายไปในทุกพื้นที่ ซึ่งวันนี้ก็ส่งไปจำหน่ายผ่านร้านค้าประชารัฐด้วย

กรณีที่ราคาหน้ากากอนามัยแต่ละร้านไม่เท่ากันนั้น เป็นเพราะการผลิตของภาคเอกชนกับขององค์การเภสัชกรรมเป็นคนละแบบกัน อีกทั้งภาคเอกชนมีค่าการตลาดด้วย แต่การผลิตขององค์การเภสัชกรรมก็มีจำนวนจำกัด ทำให้ราคาแตกต่างกัน ซึ่งต้องดูว่า ในส่วนไหนทำประโยชน์ตรงไหนได้บ้าง

โดยได้มีการหารือในที่ประชุม ครม.เกี่ยวกับมาตรการระยะสั้นและระยะยาวเพื่อป้องกันการขาดแคลน และให้สามารถช่วยเหลือต่างประเทศที่ขาดแคลนหน้ากากด้วย พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.พ. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top