สธ.พบหญิงฝรั่งเศสติดโควิดหลังพ้นกักตัว ยังไม่ยืนยันติดเชื้อในประเทศ

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วันนี้ได้พบหญิงสัญชาติฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ติดเชื้อโควิด-19 เดินทางมาจากเมือง Limoges ประเทศฝรั่งเศส ที่ไม่มีสถานการณ์ระบาดรุนแรง พร้อมสามีและลูกชายรวม 3 คน ด้วยสายการบินไทยเมื่อวันที่ 30 ก.ย.63 พัก ASQ ใน จ.สมุทรปราการ เคยตรวจหาเชื้อแล้วสองครั้งแล้วไม่พบเชื้อ

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.63 ออกจาก ASQ ไปทำธุระที่สถานทูตฝรั่งเศส เดินทางต่อไปเกาะสมุยด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ และเดินทางไปบ้านพักด้วยรถส่วนตัวของเพื่อน

วันที่ 17 ต.ค.63 เริ่มมีไข้ ไอ มีเสมหะ ปวดกล้ามเนื้อ ได้เดินทางไป Big C และ 7/11 ใกล้บ้าน

วันที่ 20 ต.ค.63 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปเข้ารับการรักษาที่ รพ.กรุงเทพสมุย ไม่มีไข้

วันที่ 21 ต.ค.63 ออกจาก รพ. ผลตรวจ PCR รพ.เกาะสมุย พบเชื้อ detect SAR-CoV-2 จึงได้ส่งตัวอย่างยืนยัน ศวก.11 สุราษฎร์ธานี

วันที่ 22 ต.ค.63 ผล PCR ศวก.11 สุราษฎร์ธานี detect SAR-CoV-2 ส่งต่อเข้าห้องแยก รพ.เกาะสมุย ส่วนผลตรวจสามีและลูกไม่พบเชื้อ และอยู่ระหว่างตรวจหาเชื้อเพื่อนที่สัมผัสใกล้ชิดที่จะรู้ผลภายในเย็นวันนี้ สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้โดยสารและลูกเรือในเที่ยวบินเดียวกัน 12 ราย ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 21 ราย อยู่ระหว่างเฝ้าระวังสังเกตุอาการ

“การพบผู้ติดเชื้อรายนี้มีโอกาสที่จะเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศไทย เนื่องจากมีการตรวจพบเชื้อหลังจากเดินทางเข้ามาแล้ว 17 วัน…มาจากเมืองที่ไม่ได้มีการระบาดรุนแรง เมื่อมาถึงประเทศไทยก็เข้าสถานที่กักกันทันที แต่พอครบ 14 วัน ออกมาแล้วมีอาการป่วยตามมา ก็เป็นไปได้ติดเชื้อที่สนามบิน ทีมสอบสวนโรคจะประมวลข้อมูลเพื่อจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนที่จะสรุป”

นพ.โสภณ กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวว่า จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยการเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อดูว่ามีภูมิคุ้มกันหรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้สามารถประเมินได้ว่าเกิดการติดเชื้อในช่วงเวลาใด โดยคาดว่าจะรู้ผลตรวจในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งตรวจหาเชื้อของบุคลากรใน ASQ ที่ จ.สมุทรปราการ ราว 40 คน

สำหรับระยะเวลา 14 วันถือว่ามีความเหมาะสมและเพียงพอ การตรวจพบเชื้อหลังจากนั้นมีโอกาสน้อยมาก แต่อาจจะเพิ่มมาตรการดูแลภายหลังออกจากที่กักกัน แต่ไม่มีนโยบายที่จะเพิ่มระยะเวลากักกัน ส่วนการลดระยะเวลากักกันนั้นจะพิจารณาจากการอนุญาตให้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ

“หน่วยงานในพื้นที่มีความเข้มแข็งในการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว พื้นที่มีความพร้อมที่จะรับสถานการณ์ที่จะป้องกันการแพร่ระบาดได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าระบบสาธารณสุขสามารถค้นหาผู้สัมผัสได้อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด” นพ.โสภณ กล่าว

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นที่ จ.ระยอง และ อ.แม่สอด จ.ตาก จึงไม่น่าเป็นห่วง ประเด็นสำคัญคือความร่วมมือจากประชาชนในการรักษาสุขอนามัย และมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง

โดยในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไว้ได้แล้ว โดยได้ดำเนินการค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 8,656 ราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมจากเดิมก่อนหน้านี้ 5 ราย ซึ่งทั้งหมดมีอาการปกติ คาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้เร็วๆ นี้

นอกจากนี้ทางจังหวัดตากยังได้เฝ้าระวังเชิงรุกด้วยการตรวจหาเชื้อในอีก 3 อำเภอ คือ แม่ระมาด 480 ตัวอย่าง, ท่าสองยาง 1,194 ตัวอย่าง และ อุ้มผาง 277 ตัวอย่าง ซึ่งผลตรวจออกมาเป็นลบ 298 ตัวอย่าง ส่วนที่เหลือจะทยอยรู้ผลตามมา และทางจังหวัดยังได้ดำเนินมาตรการอื่นๆ เช่น ปิดพรมแดนชั่วคราว, ปรับจุดขนส่งสินค้าให้อยู่บริเวณด่านชายแดน, งดการปฏิบัติศาสนกิจ, รณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากได้กว่า 95% ปิดโรงเรียนชั่วคราว

“ขณะนี้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์ ถือว่าเบาใจได้ สถานการณ์เป็นที่น่าพอใจ”

นพ.โอภาส กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะมีการประชุมหารือกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ และเริ่มพิจารณาผ่อนคลายมาตรการบางอย่างได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ต.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top