นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในการอภิปรายอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 165 ว่า เชื่อว่า ความขัดแย้งมีโอกาสคลี่คลายได้ หากต่างฝ่ายต่างลดระดับการพูดเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่อยู่ในสถานะเป็นตัวกลางแก้ปัญหานี้ได้อีกต่อไป
จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ เสียสละลาออกจากตำแหน่ง และขอให้พรรคร่วมถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เพื่อให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เป็นอิสระจากกลไกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อมาขับเคลื่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีการตั้ง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และมีการยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่
“ต้องยอมรับว่ารัฐนาวานี้ได้นับถอยหลังลงแล้ว สาม สอง หนึ่ง ศูนย์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านเสียสละลาออก ลาออกเพื่อให้ประชาชนได้นับอนาคตไปข้างหน้า วัน ทู ทรี โฟร์ ไฟว์”
นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า สังคมในปัจจุบันเราไม่สามารถจะไล่คนที่เห็นต่างจากเราออกจากชีวิตเราไปได้ และรัฐบาลต้องเปิดใจรับฟังเสียงของคนคิดต่าง ใช้วิธีตามระบอบประชาธิปไตยและใช้กลไกรัฐสภาในการคลี่คลายปัญหา ควบคู่ไปกับการสร้างพื้นที่ปลอดภัย และเปิดโอกาสคนที่คิดต่างได้พูดคุยแลกเปลี่ยนด้วยเหตุผลอย่างมีวุฒิภาวะ เรื่องความเห็นที่แตกต่างได้รับความเคารพและความเข้าใจกันมากขึ้น ความหวาดระแวงก็จะทุเลาลงและมองเจตนาที่ดีของอีกฝ่ายมากขึ้น
แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่รับฟังความเห็นของประชาชน ยังคงคิดว่าตนเองไม่เคยทำผิด และสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นการเติมฟืนเข้ากองไฟ มีการเลือกปฏิบัติ จับกุมคนที่คิดต่าง ปิดกั้นสื่อมวลชน ยังมีการเอาเรื่องชังชาติ เรื่องล้มเจ้ามาปลุกปั่น และนำไปสู่วงจรเดิมๆคือ การปฏิวัติรัฐประหาร มีความพยายามแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของประชาชน สร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง และนำไปสู่การปะทะกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 63)
Tags: ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พรรคก้าวไกล, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, แก้ไขรัฐธรรมนูญ