PRIME เดินหน้าหาพอร์ตไฟฟ้า ตปท.เพิ่ม พร้อมเร่งพัฒนาโซลาร์ฟาร์มในกัมพูชา

นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการ บมจ.ไพร์ม โรด เพาเวอร์ (PRIME) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หลังจากที่ได้ลงนามในสัญญาโครงการ Cambodia National Solar Park เพื่อพัฒนาและซื้อขายไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์ (MW) กับรัฐบาลกัมพูชาในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

ทำให้บริษัทได้รับเชิญให้เข้าประมูลโครงการขนาดใหญ่ในหลายประเทศ นอกจากนี้ บริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) แล้ว เพื่อขยายฐานรายได้และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เติบโตสวนสภาวะเศรษฐกิจ โดยจะเติบโตทั้งจากธุรกิจหลักคือโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่มีสัญญาขายไฟให้กับรัฐ และจากธุรกิจใหม่คือ ธุรกิจการรับเหมาติดตั้งและจำหน่ายอุปกรณ์ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) โดยในครึ่งปีแรก บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

นายสมประสงค์ กล่าว

นายสมประสงค์ กล่าวว่า สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่สุดในกัมพูชา มีธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) เป็นที่ปรึกษาโครงการในการวางแผนรวมถึงช่วยจัดประมูลให้รัฐบาลกัมพูชา โดยโครงการนี้จะมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์ มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์ ซึ่งจะก่อสร้างที่จังหวัดกัมปงชนัง ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการคัดเลือกสถาบันการเงินเพื่อสนับสนุนโครงการ ซึ่งธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย และสถาบันการเงินระดับนานาชาติต่างให้ความสนใจสนับสนุน ทั้งนี้ กัมพูชาเป็นประเทศที่กำลังขยายตัวทั้งภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ทำให้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูง บริษัทจึงคาดว่าจะมีโอกาสขยายการลงทุนในกัมพูชาเพิ่มเติมได้ในอนาคต

ปัจจุบัน PRIME มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดรวม 287 เมกะวัตต์ โดยจ่ายไฟแล้ว 179 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างพัฒนาและก่อสร้าง 108 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในประเทศไทยจำนวน 132.3 เมกะวัตต์ ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 68.2 เมกะวัตต์ ประเทศไต้หวันจำนวน 8.5 เมกะวัตต์ และล่าสุดบริษัทเตรียมลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศกัมพูชา กำลังผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์

“อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกกำลังปรับตัวสู่การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาด เพื่อตอบสนองกับเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหประชาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม บริษัทมุ่งมั่นที่จะขยายพอร์ตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด จากปัจจุบัน 287 เมกะวัตต์ เป็น 1,000 เมกะวัตต์ภายใน 5 ปี โดยอาศัยจุดแข็งของบริษัท คือ ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการ โรงไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย จึงความได้เปรียบด้านต้นทุน มีพันธมิตรธุรกิจระดับโลก และได้รับการยอมรับในระดับสากล…การลงทุนต่างประเทศ บริษัทจะมุ่งเน้นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก อาทิ มาเลเซีย เวียดนาม มองโกเลีย และอุซเบกิสถาน”

นายสมประสงค์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (4 พ.ย. 63)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top