รัฐบาลอินเดียประกาศแบนแอปพลิเคชันของจีนเพิ่มอีก 43 แอป รวมถึงแอป Aliexpress และแอป Taobao Live ของบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ส่งผลให้แอปมือถือของจีนที่ถูกอินเดียขึ้นบัญชีดำนั้นเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 200 แอป
มาตรการล่าสุดนี้กำลังส่งผลกระทบต่อแอปพลิเคชันของอาลีบาบาซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ อาทิ Aliexpress หนึ่งในแอปร้านค้าออนไลน์ใหญ่ที่สุดสำหรับนักช้อปต่างชาติ และ Taobao Live แอปตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ อินเดียยังบล็อกแอปพลิเคชันหาคู่และแพลตฟอร์มเกมจำนวนมาก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้บล็อกแอป WeChat ของบริษัทเทนเซ็นต์ และแอป TikTok ของบริษัทไบต์แดนซ์
รัฐบาลอินเดียระบุว่า คำสั่งแบนในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายมองว่า การขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอินเดียต้องการลดพึ่งพาสินค้าของจีน และต้องการสกัดบรรดาบริษัทขนาดใหญ่ของจีนไม่ให้ขยายอิทธิพลในอินเดีย
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอินเดียซึ่งกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายสุดในรอบ 4 ทศวรรษนั้น ได้ทวีความขัดแย้งรุนแรงขึ้น หลังเกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่ายที่บริเวณเทือกเขาหิมาลัย จนส่งผลให้ทหารอินเดียเสียชีวิต 20 นาย และทหารจีนอีกไม่ทราบจำนวนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่นั้น ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายก็คุกรุ่นมาโดยตลอด แม้จะมีการจัดเจรจาทางทหารระดับสูงเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังคงตรึงกำลังอย่างเต็มรูปแบบตามแนวชายแดน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 63)
Tags: Aliexpress, Taobao Live, TikTok, WeChat, จีน, อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, อินเดีย, เทนเซ็นต์, ไบต์แดนซ์