เงินบาทเปิด 31.20/25 ต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่า

เงินบาทเปิด 31.20/25 แนวโน้มอ่อนค่า จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหนุนดอลล์แข็ง มองกรอบ 31.20-31.35

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.20/25 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.17/19 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุดเงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับ 31.24/27 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้มองว่าเงินบาทมีแนวโน้มไปในทิศทางที่อ่อนค่าหลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นๆ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดี อีกทั้งมีโอกาสที่เงินเฟ้อของสหรัฐ (CPI) จะไปถึงระดับ 2% ตามเป้าหมาย

“วันนี้บาทมีแนวโน้มจะอ่อนค่าได้ต่อ หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆ เพราะช่วงนี้ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี และเงินเฟ้อก็มีโอกาสได้ 2% ตามคาด” นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20-31.35 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (19 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.89667% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.83982%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.23/27 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 110.21/24 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0770/0810 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0803/0807 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1870 บาท/ดอลลาร์
  • ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมกับกระทรวงพาณิชย์ ถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า โควิด-19 กระทบต่อการส่งออกสินค้าไทย โดยจนถึงขณะนี้ สินค้าอย่างผัก ผลไม้ ยางพารา และผลิตภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ รถยนต์ และส่วนประกอบ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กุ้ง ยังไม่สามารถเข้าสู่จีนได้
  • อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจโลกในปี 2562 จะเผชิญความท้าทายและชะลอตัว รวมถึงหลายประเทศเริ่มนำมาตรการกีดกันทางการค้ามาใช้มากขึ้น แต่จากการติดตามสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่าการจัดทำความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ช่วยลดอุปสรรคทางการค้า ทำให้การส่งออกสินค้าที่มีศักยภาพของไทยสามารถขยายตัวได้ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก
  • อุปนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ตลาดทองคำเมื่อวันที่19 ก.พ. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 250 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งในประเทศรับซื้อที่บาทละ 23,600 บาท ขายออกบาทละ 23,700 บาท และราคาทองรูปพรรณในประเทศรับซื้อบาทละ 23,179 บาท และขายออกบาทละ 24,200 บาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมาถึงระดับ 24,000 บาท ทุบสถิติครั้งแรกในรอบ 7 ปี นับจากเดือน ก.พ. 56
  • นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ธุรกิจประกันชีวิต จะมีเบี้ยประกันภัยรับรวม ประมาณ 610,000 ล้านบาท ไม่มีการเติบโตจากปีก่อนเหตุเพราะการดำเนินงานยังคงต้องเผชิญกับความกดดันจากปัจจัยท้าทายของปีที่ผ่านมาซึ่งยังคงมีผลสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบลุกลามไปยังเศรษฐกิจโลก รายงานระบุว่า เศรษฐกิจโลกได้ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดแล้ว แต่การฟื้นตัวยังคงมีความเปราะบาง ท่ามกลางความเสี่ยงในช่วงขาลง
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2561 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 28-29 ม.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และนโยบายการเงินในปัจจุบันก็มีความเหมาะสมที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 1 ปี นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองบวกที่คณะกรรมการเฟดมีต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานการประชุมเดือนม.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินมุมมองของเฟดที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.พ.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.
  • นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ ณ วันอังคารที่ 18 ก.พ. เพิ่มขึ้นเพียง 1,749 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 63)

Tags: , , ,
Back to Top