ครม.รับทราบผลดำเนินการตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเยียวยาโควิด

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 10 แห่งพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยได้กำหนดวงเงินกู้ไว้ไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 กระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญากู้เงินและออกตราสารหนี้ภายใต้พระราชกำหนดแล้วจำนวน 373,761 ล้านบาท คิดเป็น 37.38% ของวงเงินกู้ตามพระราชกำหนด

ขณะที่ ครม.ได้อนุมัติแผนงาน หรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดดังกล่าวแล้ว จำนวน 46 โครงการ วงเงินรวม 476,587 ล้านบาท และหน่วยเจ้าของโครงการได้เบิกจ่ายเงินกู้แล้วจำนวน 298,071 ล้านบาท คิดเป็น 62.54% ของกรอบวงเงินตามที่ ครม.อนุมัติ ซึ่งกระทรวงการคลังจะทยอยกู้เงินเมื่อ ครม.อนุมัติโครงการเพิ่มเติมตามความจำเป็น และความสอดคล้องกับการใช้เงินของโครงการต่อไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า จากการดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 มีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 4 โครงการ สามารถเยียวยาให้กับผู้มีสิทธิจำนวน 30,524,376 ราย คิดเป็น 89.92% จากกลุ่มเป้าหมายจำนวน 33,946,103 ราย แยกเป็นดังนี้

  1. โครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกระทรวงการคลัง วงเงินกู้ 240,000 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือ เยียวยา ให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ และลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการหยุดประกอบกิจการของสถานประกอบการที่เสี่ยงต่อการระบาดของโควิด-19 หรือผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้จ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิ 15,269,006 ราย คิดเป็น 95.43% ของกลุ่มเป้าหมาย เบิกจ่ายเงินกู้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 จำนวน 159,583 ล้านบาท คิดเป็น 93.87%
  2. โครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) วงเงินกู้ 3,492 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือ เยียวยา ให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการใดๆของภาครัฐ ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้กลุ่มคนดังกล่าวมีรายได้ลดลง และไม่สามารถหารายได้จากแหล่งอื่นมาทดแทนได้ โดย สศค. ได้จ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิ 1,026,496 ราย คิดเป็น 88.17% ของกลุ่มเป้าหมาย เบิกจ่ายเงินกู้ได้จำนวน 3,087 ล้านบาท คิดเป็น 88.40%
  3. โครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วงเงินกู้ 20,345 ล้านบาท ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มเปราะบางในระยะสั้น ช่วยให้มีรายได้เพียงพอที่จะลดความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในภาวะความยากจน และประสบปัญหาทางสังคมที่ซับซ้อนมากขึ้นในระยะยาว โดยได้จ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิ 6,662,994 ราย คิดเป็น 98.25% ของกลุ่มเป้าหมาย เบิกจ่ายเงินกู้ได้ 19,988 ล้านบาท คิดเป็น 98.25%
  4. โครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงินกู้ 150,000 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบให้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพในช่วงภาวะวิกฤตและเพื่อเพิ่มเติมสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ และป้องกันการเกิดปัญหาทางสังคมที่อาจตามมา โดยได้จ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิ 7,565,880 ราย คิดเป็น 75.66% เบิกจ่ายเงินกู้แล้ว ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 จำนวน 113,304 ล้านบาท คิดเป็น 75.54%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top