นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า วันนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 8 ราย ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 34 ราย ทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่ทำงานในสถานบันเทิงประเทศเมียนมา โดย 7 รายอยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ ส่วนอีก 1 ราย เป็นผู้หญิง อายุ 22 ปีลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติมากับเพื่อนที่อยู่ราชบุรีซึ่งติดเชื้อก่อนหน้านี้ โดยมีอาการปวดเมื่อย
“เคสนี้ช่วยคลายกังวลว่าไม่ได้เกิดการแพร่ระบาดในจังหวัดเชียงราย เพราะ 26 รายอยู่ในสถานที่กักกัน ส่วนอีก 8 รายมี timeline…เชียงรายไม่ได้เกิด super spreader อย่างที่คิด ดูจากผล Active Case Finding คัดกรองเชิงลึกยังไม่พบใครเลย”
นายประจญ กล่าว
โดยการสอบสวนโรคพบว่า หญิงคนดังกล่าวลักลอบเข้ามาเมื่อวันที่ 29 พ.ย.63 แล้วเดดินทางไปส่งเพื่อนขึ้นเครื่อง ไม่ยอมมารายงานตัว กักตัวเองจนถึงวันที่ 4 ธ.ค.63 แต่พอรู้ข่าวเพื่อนที่ราชบุรีติดเชื้อแล้วไม่สบายใจจึงมาตรวจหาเชื้อที่ รพ.เอกชน เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.63 ซึ่งขณะนี้รับตัวเข้ารักษาที่ รพ.ศูนย์เชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว
นอกจากนี้ทีมสอบสวนโรคได้เร่งติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 ราย และผู้เสี่ยงสัมผัสต่ำอีก 8 ราย ขณะเดียวกันได้ดำเนินมาตรการคัดกรองเชิงรุก (Active Case Finding) ด้วยรถเคลื่อนที่พระราชทานจำนวน 3 คัน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 2-7 ธ.ค.63 สามารถเก็บตัวอย่างตรวจไปแล้ว 4,852 ราย ผลออกมาเป็นลบ 3,543 ราย รอผลตรวจอีก 1,309 ราย ส่วนผู้ที่กักตัวแล้วไม่พบการติดเชื้อจะเริ่มปล่อยกลับบ้านได้แล้ววันพรุ่งนี้ ขณะที่สถานการณ์จังหวัดท่าขี้เหล็กได้รับรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อราว 70 ราย
สำหรับกรณีที่มีคลิปเสียงว่าจังหวัดเชียงรายมีผู้ติดเชื้อ 600 รายนั้นไม่เป็นความจริง ทั้งนี้จังหวัดเชียงรายจะจัดกิจกรรมทำความสะอาดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ภายใต้รหัส 10-10-12-20 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนที่ผู้ประกอบการจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ลักลอบเข้าประเทศแล้วนำเชื้อโรคแพร่ระบาดนั้น ส่วนตัวเห็นว่าช่วงนี้ควรมาช่วยกันแก้ไขปัญหาและให้กำลังใจกันน่าจะดีกว่า เพราะเรากำลังอยู่ท่ามกลางสงครามเชื้อโรค ซึ่งตนเองจะดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ธ.ค. 63)
Tags: COVID-19, เชียงราย, โควิด-19