ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลง เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐนั้น ยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,046.37 จุด เพิ่มขึ้น 47.11 จุด หรือ +0.16%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,663.46 จุด ลดลง 4.64 จุด หรือ -0.13%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,377.87 จุด ลดลง 27.94 จุด หรือ -0.23%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 0.57%, ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 0.96% และดัชนี Nasdaq ติดลบ 0.69% ขณะที่การลดลงของดัชนี S&P500 และ Nasdaq ในสัปดาห์นี้เป็นการลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่สิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
ตลาดขานรับวุฒิสภาสหรัฐได้อนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ที่จะต่ออายุงบประมาณชั่วคราวของรัฐบาลกลางสหรัฐออกไปอีก 1 สัปดาห์เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล และเพื่อให้รัฐบาลมีเวลามากขึ้นสำหรับการเจรจาต่อรองเรื่องมาตรการเยียวยาผลกระทบของโรคโควิด-19
สมาชิกรัฐสภาสหรัฐมีความขัดแย้งกันมาหลายเดือนแล้วเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นด้านการคลังรอบใหม่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยล่าสุดนั้น นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กได้สั่งห้ามการรับประทานอาหารในร้านในกรุงนิวยอร์กซิตี้ โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
ตลาดยังได้แรงหนุนหลังมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 81.4 ในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 75.5 จากระดับ 76.9 ในเดือนพ.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท, ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งจากการที่ผู้บริโภคที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากที่นายโจ ไบเดน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรายวันจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงนั้น การล็อกดาวน์ธุรกิจในหลายรัฐและการปลดพนักงานเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่า รัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการเยียวยารอบใหม่เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ความช่วยเหลือส่วนใหญ่ของรัฐบาลได้สิ้นสุดลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่การเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จะยืดเยื้อไปจนถึงช่วงคริสต์มาส
หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ พุ่ง 13.59% ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น หลังดิสนีย์ประกาศรายการใหม่ๆ สำหรับบริการสตรีมมิ่ง และคาดว่าจะมีสมาชิกทั่วโลก 350 ล้านรายภายในสิ้นปี 2567
หุ้นไฟเซอร์ ลดลง 1.46% แม้นิวยอร์ก ไทม์สรายงานว่า สำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ จะอนุมัติใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์อย่างเร็วที่สุดในช่วงเย็นวันศุกร์นี้ตามเวลาสหรัฐ
หุ้นควอลคอมม์ ร่วง 7.36% หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ เริ่มผลิตโมเดมเซลลูลาร์สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ในอนาคต ซึ่งจะถูกนำมาใช้แทนที่ชิ้นส่วนประกอบจากควอลคอมม์
ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 63)
Tags: dowjones, Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก