กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 3 ราย เกี่ยวพันกับผู้ที่เดินทางจากประเทศอิตาลี เป็นหญิง 2 ราย และชาย 1 ราย
รายแรกเป็นหญิงไทยอายุ 41 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ แต่มีความใกล้ชิดกับผู้ป่วยชายไทย รายที่ 45 ซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศอิตาลี ซึ่งผู้ป่วยหญิงไทยรายนี้มีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.63 ด้วยอาการไข้และเดินทางไปตรวจร่างกายพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อาการไม่ได้หนักมาก ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี
ส่วนผู้ป่วยอีก 2 ราย เป็นสามี-ภรรยา โดยภรรยาเดินทางกลับมาจากประเทศอิตาลี เมื่อถึงประเทศไทย รู้สึกไม่สบายจึงได้เดินทางไปตรวจวินิจฉัย พบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนสามีที่อยู่ใกล้ชิดก็พบการติดเชื้อเช่นกัน โดยขณะนี้ทั้ง 2 รายรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
ดังนั้น ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมในขณะนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53 ราย กลับบ้านได้แล้ว 33 ราย รักษาตัวอยู่ใน รพ. 19 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
“ขณะนี้สถานการณ์ในประเทศไทย ถ้าดูจากผู้ป่วย 3 รายนี้ก็ยังเป็นผู้ป่วยนำเข้า มาจากอิตาลี ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรง ดังนั้นขอให้ประชาชนระมัดระวัง หลีกเลี่ยงเดินทางไปยังพื้นที่ในยุโรปที่มีการระบาด ถ้าหากจำเป็นต้องไป ต้องระมัดระวังเต็มที่” นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคระบุ
นพ.โสภณ ยังกล่าวถึงกรณีที่พนักงานบริษัท แกร็บ จากสิงคโปร์ เดินทางมาประชุมที่ประเทศไทยแล้วติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เคสนี้เป็นพนักงานแกร็บเข้ามาประชุมในไทยระยะสั้นๆ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปช่วงระยะฟักตัวของโรคใน 14 วันแล้ว พบว่าได้เดินทางไปยัง 2 ประเทศ แต่จากการรายงานเบื้องต้นของทีมสอบสวนโรคเชื่อว่าโอกาสที่จะติดเชื้อจากประเทศไทยมีน้อย เพราะผู้ป่วยใช้เวลาอยู่ในเมืองไทยเพียงไม่นาน และไม่มีการสัมผัสกับผู้ป่วยในประเทศ
“ถ้าดูจากข้อมูลวันเริ่มป่วยถ้าย้อนไประยะฟักตัว 14 วันเขาอยู่ 2 ที่ โอกาสสูงมากที่เขาจะรับเชื้อจากนอกประเทศ เพราะระยะเวลาที่เขามาเมืองไทยสั้นมาก จากข้อมูลเบื้องต้นของทีมสอบสวนโรค คาดว่าจะติดเชื้อนอกประเทศไทย แต่เรายังไม่ด่วนสรุป ขอเวลาสอบทานข้อมูลก่อนว่าเขารับเชื้อมาจากไหน ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของเขาด้วย กิจกรรมของเขาในไทย ไม่ได้มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยเลย ดังนั้นจะรับเชื้อมาจากไหน ส่วนอีกประเทศ มีผู้ป่วยเหมือนกัน มีโอกาสมากกว่า” นพ.โสภณ กล่าว
นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์แรงงานไทยผิดกฎหมายที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ว่า ล่าสุดขณะนี้ที่อาคารรับรองสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับตัวแรงงานไทยดังกล่าวไว้เพื่อเฝ้าติดตามอาการรวมทั้งสิ้น 188 คน เป็นชาย 88 คน หญิง 100 คน ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ เป็นแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากเมืองแทกู และคยองซังเหนือเพียง 8 คน ผลการคัดกรองส่วนใหญ่มีสุขภาพที่แข็งแรงดี มีเพียง 20 คนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มของหญิงตั้งครรภ์, เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคประจำตัว
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังกล่าวถึงการติดตามแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ แต่ไม่เข้ารับการกักตัว เนื่องจากเดินทางกลับเข้าประเทศก่อนจะเริ่มมีมาตรการเข้มงวดว่า จากจำนวนแรงงานไทยดังกล่าว 70-80 คน ขณะนี้สามารถติดตามให้เข้ามาอยู่ในระบบเฝ้าระวังแล้วถึง 90% โดยยังเหลืออีกบางส่วนไม่ถึง 10 คนที่ยังไม่สามารถติดตามได้ เนื่องจากข้อมูลที่อยู่คลาดเคลื่อน
อย่างไรก็ดี ได้รับรายงานการเตรียมความพร้อมถึงสถานที่ที่ใช้สำหรับรองรับการเฝ้าสังเกตอาการ โดยในส่วนของกองบินกำแพงแสน พร้อมรองรับได้ 64 คน กองทัพเรือ คาดจะเปิดเพิ่มเติมอีกพรุ่งนี้ ซึ่งจะทำให้มีจำนวนที่รองรับได้ถึง 600 คน ส่วนในจังหวัดที่มีจำนวนเพียง 1-2 คนนั้นจะให้กักตัวอยู่ที่บ้านและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 63)
Tags: COVID-19, กระทรวงสาธารณสุข, ยงยศ ธรรมวุฒิ, อิตาลี, โควิด-19, โสภณ เอี่ยมศิริถาวร