นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ในการช่วยเยียวยาและบรรเทาค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า-ค่าประปา) ให้แก่ประชาชน
โดยในส่วนของค่าไฟฟ้า ได้มีมติเห็นชอบใน 3 ส่วน คือ
1.การลดค่าไฟฟ้า 3% สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท ในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เม.ย.-มิ.ย.63 คาดใช้งบประมาณ 5,160 ล้านบาท แบ่งเป็น ในส่วนของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,600 ล้านบาท และในส่วนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 3,560 ล้านบาท โดยจะมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดำเนินการลดค่าไฟฟ้า 3% และพิจารณาใช้เงินคืนรายได้เพื่อให้การไฟฟ้าฯ มีฐานะการเงินตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นแหล่งเงินในการลดค่าไฟฟ้าครั้งนี้
2.ขยายเวลาชำระค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจเฉพาะ เช่น โรงแรม และกิจการให้เช่าที่พักอาศัย โดยจะไม่คิดดอกเบี้ยในช่วงที่ขยายเวลาการชำระค่าไฟนี้ตลอดระยะเวลาการผ่อนผัน ซึ่งให้ผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือนในแต่ละรอบบิลสำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนเม.ย. และพ.ค. โดยจะไม่มีการงดจ่ายไฟชั่วคราว โดยผู้ที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าในพื้นที่
3.การคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า) ให้แก่บ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก ซึ่งมีผู้ได้รับการคืนเงินในส่วนนี้ 22.17 ล้านราย วงเงิน 32,700 ล้านบาท แบ่งเป็น ผู้ใช้ไฟฟ้าในส่วนของ กฟน. 3.87 ล้านราย วงเงิน 13,000 ล้านบาท และผู้ใช้ไฟฟ้าในส่วนของ กฟภ. 18.3 ล้านราย วงเงิน 19,700 ล้านบาท โดยสามารถใช้สิทธิขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าได้ตามขนาดของเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า โดยพรุ่งนี้ กกพ.จะแถลงรายละเอียดและขั้นตอนที่ชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนกรณีของค่าน้ำประปานั้น ได้มีมติเห็นชอบใน 3 ส่วนเช่นกัน คือ
1.การลดค่าน้ำประปา 3% สำหรับผู้ใช้น้ำทุกประเภทเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เม.ย.-มิ.ย.63 คาดใช้งบประมาณ 330 ล้านบาท มีผู้ได้รับประโยชน์ 30,900 ราย แบ่งเป็นในส่วนของการประปานครหลวง (กปน.) 900 ราย และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) 30,000 ราย
2.ขยายเวลาการชำระค่าน้ำประปาให้แก่ผู้ใช้น้ำที่จดทะเบียนเป็นธุรกิจโรงแรมและกิจการให้เช่าพักอาศัย โดยจะไม่คิดดอกเบี้ยในช่วงที่ขยายเวลาการชำระค่าน้ำประปาตลอดระยะการผ่อนผัน สามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือนในแต่ละรอบบิลสำหรับใบแจ้งค่าน้ำประปา
3.คืนเงินประกันการใช้น้ำให้แก่ผู้ใช้น้ำประปาประเภทที่ 1 คือที่พักอาศัย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ได้รับประโยชน์ 5.7 ล้านราย คิดเป็นวงเงิน 2,834 ล้านบาท แบ่งเป็นของ กปน. 2 ล้านราย วงเงิน 1,034 ล้านบาท และ กปภ. 3.7 ล้านราย วงเงิน 1,800 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 63)
Tags: คณะรัฐมนตรี, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, นฤมล ภิญโญสินวัฒน์, เงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า