ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง แม้จะดำเนินมาตรการล็อกดาวน์มานานหลายสัปดาห์ โดยเจ้าหน้าที่เตือนว่า ยอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ประเทศกำลังรับมือเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
รายงานระบุว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 124 ราย เมื่อเทียบกับระดับ 110 รายในวันก่อนหน้า และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากเมืองซิดนีย์ เมืองหลวงของรัฐ ซึ่งอยู่ในสัปดาห์ที่ 4 ของมาตรการล็อกดาวน์
ส่วนรัฐวิกตอเรีย ซึ่งกำลังเข้าสู่การล็อกดาวน์สัปดาห์ที่ 2 รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 22 ราย
นางกลาดีส์ เบเรจิเคลียน นายกเทศมนตรีของรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า “เราคาดว่ายอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะเริ่มลดลง และเราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้”
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐระบุว่า สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือจำนวนผู้คนเดินทางไปมาในชุมชนก่อนที่จะได้รับการตรวจหาเชื้อ ซึ่งรัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 48 รายเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ เมืองซิดนีย์ ซึ่งมีประชากร 1 ใน 5 จากจำนวนทั้งหมด 25 ล้านคนของออสเตรเลีย มีกำหนดยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 30 ก.ค. แต่นางเบเรจิเคลียนกล่าวว่า ยอดผู้ติดเชื้อในชุมชนต้องเข้าใกล้ศูนย์ก่อนจึงจะมีการตัดสินใจดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, กลาดีส์ เบเรจิเคลียน, ซิดนีย์, รัฐนิวเซาท์เวลส์, ล็อกดาวน์, ออสเตรเลีย, โควิด-19