หุ้นไทยปิดบวก 0.39 จุด แกว่งแคบหลังขึ้นไปเร็ว-รอการประชุมเฟดแจ็คสันโฮล

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,600.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขายราว 45,192 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ด้านข้างแถว 1,600 หลังขึ้นไปเร็ว ปัจจัยบวกจากความคาดหวังสถานการณ์โควิดดีขึ้น ขณะที่การประชุมเฟดรอบแจ็คสันโฮลยังมีความไม่แน่นอน อีกทั้งเงินบาทแข็งค่าเป็น Sentient ลบกลุ่มส่งออก-อิเล็กทรอนิกส์ นักลงทุนจึงหันหาหุ้นยัง Laggard บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งตัวลักษณะสร้างฐาน ให้แนวรับ 1,590 แนวต้าน 1,610 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,600.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขายราว 45,192 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ โดยทำระดับสูงสุด 1,603.77 จุด และระดับต่ำสุด 1,595.69 จุด

นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้างบริเวณ 1,600 จุดหลังจากปรับตัวขึ้นไปเร็ว จากความคาดหวังในเรื่องวัคซีนโควิดจะเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4/64 และสหรัฐปลดล็อกวัคซีนไฟเซอร์ให้ใช้เต็มรูปแบบได้ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในไทยดีขึ้น ทำให้มีความคาดหวังการคลายล็อกดาวน์-เปิดเมืองตามมา

ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดเทรดในแดนบวกก่อนพลิกมาแกว่งในแดนลบเป็นส่วนใหญ่เฉลี่ยราว 0.4% ระหว่างรอติดตามการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมืองแจ็คสันโฮล ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนว่าจะส่งสัญญาณอย่างไรต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยและการปรับลด QE

อย่างไรก็ดี ติดตามงานไทยแลนด์โฟกัส เนื่องจากมีกองทุนต่างประเทสถึง 102 แห่งเข้าร่วมงานรับฟังข้อมูล และติดตามทิศทางค่าเงินผันผวนในขณะนี้ด้วย โดยเงินบาทกลับมาแข็งค่าเร็วเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มส่งออกและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อว่าผลประกอบการยังมีแนวโน้มที่ดีในไตรมาส 3-4 และนักลงทุนสถาบันซื้อเก็บไว้มากในช่วงที่ผ่านมา เมื่อราคาหุ้นปรับฐานไปถึงจุดหนึ่งก็คาดว่าจะมีแรงรับเข้ามา เพียงแต่ช่วงนี้นักลงทุนอาจหันไปหาหุ้นที่ยัง Laggard เพราะให้ Return ที่ดี

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งออกด้านข้างก่อนในลักษณะสร้างฐาน โดยมีแนวรับ 1,590 จุด ส่วนแวนต้าน 1,610 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • 7UP มูลค่าการซื้อขาย 3,386.99 ล้านบาท ปิดที่ 1.72 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,756.40 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
  • GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,182.49 ล้านบาท ปิดที่ 4.88 บาท ลดลง 0.12 บาท
  • GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,351.42 ล้านบาท ปิดที่ 80.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
  • PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,078.52 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top