หุ้นไทยแนวโน้มเช้าขึ้นตามตปท.หลังเฟดไม่เร่งขึ้นดบ.-น้ำมันพุ่ง-คลายล็อกดาวน์

นักวิคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดภูมิภาคเช้านี้บวกราว 0.2-0.3% ตามตลาดสหรัฐฯ หลังเฟดไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้จะปรับลด QE ปลายปีนี้ นอกจากนี้ราคาน้ำมันขึ้นหลังพายุเฮอริเคนใกล้เข้าเม็กซิโก ส่วนโควิดในประเทศดีขึ้นและจะเริ่มคลายล็อกดาวน์ 1 ก.ย.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,600 แนวต้าน 1,620-1,625 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ดีดขึ้นราว 0.2-0.3% ตามตลาดสหรัฐฯ หลังจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันเฟดไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังจากวิตกภาวะตึงตัวจากการที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งพากันยุติการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ก่อนพายุเฮอริเคนจะเข้าถล่มในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศดูดีขึ้น และจะมีการทยอยคลายล็อกดาวน์ในวันที่ 1 ก.ย.นี้

อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย, ในวันที่ 31 ส.ค.ให้ติดตาม MSCI Rebalance และการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ, การชุมนุมใหญ่ทางการเมืองวันที่ 2 ก.ย.นี้ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจก็ให้ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการของทั่วโลกจะทยอยออกมา รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,625 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,455.80 จุด เพิ่มขึ้น 242.68 จุด (+0.69%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,509.37 จุด เพิ่มขึ้น 39.37 จุด (+0.88%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,129.50 จุด เพิ่มขึ้น 183.69 จุด (+1.23%)
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 12.91 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 226.46 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 1.40 จุด
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ส.ค.) 1,611.20 จุด เพิ่มขึ้น 9.29 จุด (+0.58%)
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 6,009.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ส.ค.64
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ส.ค.) ปิด 68.74 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2%
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ส.ค.) อยู่ที่ 3.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 32.53 แข็งค่าจากสัปดาห์ก่อนตามทิศทางตลาด จับตากระแสเงินทุนไหลเข้า
– “สุพัฒนพงษ์” เร่งเคาะมาตรการ “อีวี” ก.ย.นี้ หนุนภาษีสร้างดีมานด์ จูงใจลงทุน นำร่องผลิต 30% ในปี 2573 ตั้งเป้าปล่อยคาร์บอนเหลือศูนย์ สั่ง สนพ.ดันพลังงานทดแทน 50% ในพีดีพีใหม่ หวังลงทุนเพิ่ม 2 ล้านล้านบาท ใน 10 ปี “พลายพล” แนะขยับแผนเร็วขึ้นอีก 15-20 ปี หวั่นเจอกีดกันการค้า
– “ศักดิ์สยาม” เร่งตั๋วร่วมรถไฟสีแดงนำร่องตั๋วใบเดียว “สีแดง-รถ ขสมก.” แบบเหมารายเดือนเริ่มใช้ พ.ย.นี้ กำหนดค่าโดยสารร่วมแบบไม่มีแรกเข้า ส่วนตั๋วร่วม EMV ใช้ได้ปลายปี 64 พร้อมขยายใช้กับ MRT สีน้ำเงินและสายสีม่วงต้นปี 65
– ธปท.ระบุตลาดการเงินไทยมีความพร้อมในการทำธุรกรรม อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR เตรียมยกเลิกดอกเบี้ย LIBOR สกุลดอลลาร์สหรัฐ 30 เม.ย 66
– ดีเดย์ 1 ก.ย. กพท.คลายล็อกบินเข้า-ออกพื้นที่สีแดงเข้ม พร้อมกางมาตรการคุมเข้มจัดระเบียบการบิน สั่งจำกัดผู้โดยสารไม่เกิน 75% ของเที่ยวบิน จี้เว้นระยะห่าง ด้านสายการบินดี๊ด๊าเตรียมพร้อมให้บริการคึกคัก
– บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.อยู่ระหว่างเร่งทบทวนปรับแผนการก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะ (เฟส) 3 วงเงินประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาทเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
– ททท.สำรวจ 300 เอเย่นต์ทัวร์ในอินเดียพบส่วนใหญ่ 94% นักท่องเที่ยวอินเดียต้องการมาเที่ยวไทยและไม่ถูกกักตัว รอ ศบค.อนุญาต หลังเริ่มผ่อนผันให้นักธุรกิจ กลุ่มครอบครัวเข้าได้แล้ว ชี้หากให้เข้าได้เมื่อใดไหลเข้า “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” แน่

หุ้นเด่นวันนี้

– PTTEP (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 160 บาท ได้อานิสงส์โดยตรงราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว จากข่าวพายุพัดถล่มสหรัฐกระทบการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกประมาณ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน กลางสัปดาห์ลุ้นกลุ่ม OPEC+ ระงับการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตชั่วคราวกังวลดีมานด์หดตัวแรงจากการระบาดของไวรัสเดลตา
– PRM (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 7 บาท ฟื้นจากจุดต่ำสุดใน Q2/64 เรือ int’s trading และธุรกิจ Offshore จะดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี พร้อมลุ้นคลายล็อกดาวน์ใน Q4/64 ประเมินการเปิดประเทศเร่งการใช้น้ำมัน และจะทำให้การขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้น ประเมินกำไรปี 64-65 ที่ 1.38 พันลบ.และ 1.44 พันลบ. -9.8%YoY, +4.3%YoY ตามลำดับ
– ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 200 บาท ระยะสั้นกำไร Q3/64 แม้ยังชะลอตัวจากการล็อกดาวน์ แต่เริ่มได้ประโยชน์จาก Reopening หนุนเศรษฐกิจภาพรวมและรายได้ฟื้นตัวใน Q4/64 เป็นต้นไป และเป็นหุ้น Big Cap คาดเป็นเป้าหมายต่างชาติหาก Flow ไหลเข้า มี Catalyst จากโอกาสจ่ายปันผลสูงขึ้น และ Valuation น่าสนใจกว่า INTUCH จาก Holding Discount หายไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ส.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top